อิหม่ามยื่นผู้ว่าฯ จี้ ย้ายนายอำเภอ ออกนอกพื้นที่ ระบุ ไม่ให้เกียรติศาสนสถาน

นอภ.ควนโดนยันไม่คิดดูหมิ่นศาสนาอื่น หลังอิหม่ามยื่นร้องผู้ว่าให้ตนออกนอกพื้นที่

วันที่ 21 มิถุนายน 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายมัดโหด ละใบแด ประธานชมรมอิหม่าม จ.สตูล พร้อมคณะ 6 คน เข้ายื่นหนังสือต่อนายภัทรพนธ์ รัตนพิเชฏฐชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ที่ห้องประชุมวัฒนโกเมร ศาลากลางจังหวัดสตูล ต.พิมาน อ.เมือง จ.สตูล เรื่องขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติสอบการปฏิบัติหน้าที่ของนายจรัญ จันทรปาน นายอำเภอควนโดน
โดยประธานชมรมอิหม่าม จ.สตูล ให้เหตุผลว่า นายอำเภอควนโดนได้ปฏิบัติหน้าที่ไม่เหมาะสมไม่ให้เกียรติสถานที่ ศาสนสถาน เป็นสถานที่ละเอียดอ่อน ดูหมิ่นดูแคลนในฐานะเจ้าหน้าที่ของรัฐ และผู้บริหารระดับสูงที่ขาดภาวะผู้นำ และขาดจรรยาบรรณของข้าราชการนั้น ด้วยการขึ้นบนสถานที่กล่าวสุนทรพจน์ ในมัสยิดโดยไม่ได้รับอนุญาต และถือเป็นการไม่ให้เกียรติต่อสถานที่ ใช้เครื่องเสียงในมัสยิดและบาลัยซะ ในช่วงขณะที่ประชาชนได้ถือปฏิบัติศาสนกิจอยู่ (ละหมาด) จึงขอให้มีการ แต่งตั้งคณะกรรมการสอบการปฏิบัติหน้าที่ , ให้มีคำสั่งโยกย้ายออกนอกพื้นที่ทันที , หากไม่มีการดำเนินการใดๆหนังสือฉบับนี้ จะถูกส่งไปยังผู้เกี่ยวข้องตามลำดับขั้น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไปเพื่อให้เป็นผลมากที่สุด

ด้านนายภัทรพนธ์ รัตนพิเชฏฐชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล หลังเข้ารับหนังสือ ได้มอบหมายให้นายศักดา วิทยาศิริกุล ปลัดจังหวัดสตูล ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ภายใน 7 วันโดยจะให้ความธรรมกับทั้งสองฝ่าย และมีความยินดีที่ทางอิหม่ามได้เดินทางมาเยี่ยมถึงศาลากลางจังหวัด

นักข่าวได้ติดต่อไปยัง นายจรัญ จันทรปาน นายอำเภอควนโดน “สอบถามถึงข้อกล่าวหาที่เกิดขึ้น โดยได้รับคำชี้แจงว่า ตนทำงานในพื้นที่ จ.ปัตตานี และนราธิวาส ทำโครงการ 1 ศุกร์ 1 มัสยิด มาร่วมกว่า 7 ปี เพื่อทำความสะอาดมัสยิด เก็บขยะ จัดระเบียบมาอย่างต่อเนื่อง และเมื่อย้ายมาที่ อ.ควนโดน จ.สตูล เห็นเป็นโครงการดี จึงนำสานงานต่อ โดยทุกครั้งที่เดินทางไป ชาวบ้าน ชุมชน จะเป็นผู้จัดเตรียมสถานที่ให้ตนได้พูดคุยพบกับประชาชนในพื้นที่ บางครั้งจัดให้พบด้านนอกมัสยิด บางครั้งจัดให้พบด้านในมัสยิด ซึ่งการปฏิบัติตนต่อต่างศาสนาตนรู้กฎกติกาเป็นอย่างดี

Advertisement

จากปัญหาที่เกิดขึ้นคิดว่าเป็นข้อจำกัดในด้านเครื่องเสียง ที่มีการจัดเก้าอี้ให้ตนพูดกับประชาชนผ่านหน้าต่าง โดยจังหวะนั้นตนเข้าไปพูดก็ไม่มีผู้ใดกำลังละหมาด เนื่องจากเลยเวลาแล้ว แต่ก็ใช้เวลาในการพูดประมาณ 30 นาที สถานที่ซึ่งเป็นบาลัยซะ มักจะมีคนจรเดินทางผ่านไปมาเพื่อแวะมาทำศาสนิกทางศาสนาประจำ และยังเชื่อว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของการเมืองมากกว่า เนื่องจากในพื้นที่กำลังมีปัญหาเรื่องการจัดระเบียบพื้นที่ชายแดนวังประจัน อำเภอควนโดน และปัญหาการพิจารณาขาดคุณสมบัติของผู้นำท้องที่บางคน จึงมีการนำประเด็นศาสนาซึ่งเป็นเรื่องเปราะบางมากล่าวหาตน และพร้อมจะให้การตรวจสอบและไม่คิด หรือเคยดูหมิ่นศาสนาอื่นแต่อย่างใด”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image