เมื่อวันที่ 21 มิย.ผู้สื่อข่าวรายงานข่าวแพร่สะพัดเกี่ยวกับกรณีทางตำรวจมาเลเซียได้ควบคุมตัว นายหะยีสะมะแอ ท่าน้ำ อดีตเคยเป็นประธานกองกำลัง PULO โดยได้ตรวจสอบไปยังแหล่งข่าวด้านความมั่นคงของประเทศเพื่อนบ้าน ได้รับข้อมูลเรื่องราวต่างๆ เท่าที่จะเปิดเผยได้ตามลำดับโดย
เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ตรวจมาเลเซีย มีการจับกุม นายดอเลาะ (ไม่ทราบนามสกุล) ในพื้นที่ อ.บาลิ่ง รัฐเคดาห์ ประเทศสมาเลเซีย ในข้อหาไม่มีเอกสารเดินทาง แต่นายดอเลาะฯ ขัดขืนต่อสู้ทำให้ นายดอเลาะฯ ถูกวิสามัญ ต่อมาตำรวจมาเลเซีย ได้ทำการสืบสวนขยายผลจากเบอร์โทรศัพท์ที่ติดตัว จนพบว่ามีความเชื่อมโยงกับ นายยูโซ๊ะ นาวิก และนายหะยีสะมะแอ ท่าน้ำ
เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าทำการควบคุมตัว นายยูโซ๊ะ นาวิก และนายหะยีสะมะแอ ท่าน้ำ เพื่อทำการสอบสวน โดยจับกุม นายยูโซ๊ะ นาวิกได้ที่บ้านพักในพื้นที่ ต.เปิงกาลันจือปอ อ.โกตาบารู รัฐกลันตัน ส่วน นายหะยีสะมะแอ ท่าน้ำ ถูกจับกุมที่ร้านอาหารของตนเอง ชื่อ sri impian ในพื้นที่ตลาดกัวลากังซาร์ ถ.ไทปิง – กัวลากังซาร์ อ.กัวลากังซาร์ รัฐเปรัค มซ. ทั้งนี้รายงานยังระบุว่าสามารถตรวจพบธงตราสัญลักษณ์กลุ่มขบวนการ PULO
และเมื่อวันที่ 18 มิ.ย.ได้มีข่าวลือเกี่ยวกับกรณีของ นายหะยีสะมะแอ ว่าได้รับการปล่อยตัวแล้ว แต่ยังไม่มีการออกมายืนยันของฝ่ายใด ส่วน นายยูโซ๊ะ นาวิก ยังคงถูกตำรวจรัฐกลันตันฯ ควบคุมตัวในข้อหาเกี่ยวกับคดีความมั่นคง
แหล่งข่าวเผยว่าการที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเลเซียร่วมกับเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงมาเลเซีย จับกุม นายหะยีสะมะแอ ท่าน้ำ ในข้อหาคดีความมั่นคงดังกล่าว อาจเกิดจากที่ผ่านมา นายหะยีสะมะแอ ได้ดำเนินการสำรวจและรวบรวมรายชื่อบุตรหลานแกนนำกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่อาศัยอยู่ในประเทศมาเลเซีย เพื่อเข้าสู่โครงการพาคนกลับบ้าน ซึ่งกำลังดำเนินการขอทำบัตรประจำตัวประชาชนให้กับสมาชิก และบุตรหลาน จนอาจส่งผลกระทบต่อแกนนำผู้ก่อความไม่สงบกลุ่มอื่นๆ เช่น กลุ่มบีอาร์เอ็น จึงทำให้ นายหะยีสะมะแอ ตกเป็นเป้าหมาย ทำลายความน่าเชื่อถือ จึงต้องเร่งยับยั้ง ยุติบทบาทของนายหะยีสะมาแอฯ ดังกล่าว ด้วยการชี้นำให้ฝ่ายความมั่นคงของมาเลเซีย เข้าดำเนินการต่อเป้าหมายที่เป็น นายหะยีสะมะแอ อีกทั้งปัจจุบันทางการมาเลเซีย ได้ตระหนักถึงปัญหาที่อาจจะทำให้ประเทศ เป็นพื้นที่เคลื่อนไหวและปฏิบัติการของกลุ่ม IS และกลุ่มแกนนำก่อความไม่สงบในภาคใต้ตอนล่างของประเทศ จึงตกเป็นเป้าหมายในการติดตามและเพิ่มมาตรการดูแลควบคุมกลุ่มที่หลบหนีมาหลบซ่อนตัวในมาเลเซียอย่างเข้มงวดมากขึ้น และในอนาคตเหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวนี้อาจจะส่งผลต่อสมาชิกระดับแกนนำของขบวนการ PULO และ BRN ที่ยังคงอาศัยอยู่ในมาเลเซียจำนวนหลายคน
