เครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบ พ.ร.บ.น่านน้ำไทยออกแถลงการณ์เตรียมบุกกรุงเร็วๆนี้

รายงานข่าวจากจังหวัดสงขลาเมื่อวันที่ 22 มิถุนายนนี้ ว่า เครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจาก พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย ได้ออก แถลงการณ์เรื่อง พร้อมไปเมืองกรุง ชะลอการบังคับใช้และแก้ไขพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย (ฉบับที่ 17) พ.ศ.2560 โดยระบุว่า กราบเรียน พี่น้องประชาชน พี่น้องผู้ได้รับความทุกข์จากกฎหมายฉบับนี้ และ กราบเรียนถึง ฯพณฯ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล ตามที่ได้มีการตราพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.2456 ขึ้นบังคับใช้ในประเทศ และมีการแก้ไขเพิ่มเติมเรื่อยมาจนถึงฉบับที่ 17 ปี พ.ศ.2560 ในภาค ก ข้อบังคับทั่วไป หมวดที่ 6 ข้อบังคับเบ็ดเตล็ด ฆ/1 ว่าด้วยการล่วงล้ำลําน้ำ นั้น ได้จะสร้างความทุกข์เดือดร้อน แก่ประชาชนและ ชุมชนที่มีวิถีชีวิตอยู่อาศัยอยู่ในพื้นที่ ริมน้ำประเภทต่างๆ อย่างทั่วถึงกัน ทั้งประเทศ เนื่องจากไม่มีการแยกแยะประเภทของชุมชนริมน้ำ อาทิ ชุมชนริมคลอง ริมแม่น้ำ ริมทะเลสาบ ริมทะเล และริมชายฝั่งทะเล อันดามัน อ่าวไทยและตะวันออก ที่มีการตั้งถิ่นฐาน บ้านเรือนตามประวัติศาสตร์ภูมิปัญญาวิถีวัฒนธรรม มาอย่างยาวนาน เช่น ชุมชนชาวเล, ชุมชนบนเกาะกลางทะเล, ชุมชนริมปากแม่น้ำ, ชุมชนริมคลอง, ชุมชนประมง เป็นต้น

ประการสำคัญต่อมา กระทรวงคมนาคมได้ออกกฎกระทรวงกำหนดให้ บ้านเรือนชุมชนดั้งเดิม ไม่เป็นสิ่งที่พึงอนุญาต อีกทั้งใช้มาตรการทางกฎหมายเดียวกันในการจัดการ ทั้งบ้านเรือนชุมชน, ที่ตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเพื่อสังคม, พื้นที่สาธารณะของชุมชน (ท่าเรือชุมชนและสะพานทางเดิน), เครื่องมือประกอบอาชีพ เช่น โป๊ะ กระชัง หรือ สถานประกอบธุรกิจเอกชน หรือแม้แต่การบุกรุกใหม่

หลังการใช้บังคับพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย (ฉบับที่ 17) พ.ศ.2560 กรมเจ้าท่า ได้ออกประกาศกำหนดให้ชุมชนต้องแจ้งการล่วงล้ำลำน้ำ ภายในวันที่ 22 มิถุนายน 2560 หลังจากนั้น จะใช้บทบัญญัติของกฎหมายนี้อย่างเคร่งครัด มีทั้งโทษปรับอัตราสูงและโทษจำคุก ยิ่งสร้างความทุกข์ เดือดร้อนแก่ประชาชนชายฝั่งทะเลและริมน้ำจำนวนนับล้านครอบครัว

ต้นเหตุของปัญหานี้ คือข้อกำหนดในพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย ที่ไม่เป็นธรรม และไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง นอกจากนั้นพระราชบัญญัติฯ ฉบับแก้ไขล่าสุด นี้ ไม่มีการรับฟังความ คิดเห็นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างรอบด้าน และไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ ของรัฐธรรมนูญ มาตรา 77 ความว่า “รัฐพึงจัดให้มีกฎหมายเพียงเท่าที่จำเป็น และยกเลิกหรือ ปรับปรุงกฎหมายที่หมดความจำเป็น หรือไม่สอดคล้องกับสภาพการณ์ หรือที่เป็นอุปสรรคต่อ การดำรงชีวิต หรือการประกอบอาชีพโดยไม่ชักช้า เพื่อไม่ให้เป็นภาระแก่ประชาชน และดำเนินการให้ประชาชนเข้าถึงตัวบทกฎหมายต่างๆ ได้โดยสะดวก และสามารถเข้าใจ กฎหมายได้ง่ายเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายได้อย่างถูกต้อง”

Advertisement

เครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย กลุ่มชุมชนจังหวัดต่างๆ ได้ประสานงาน ยื่นข้อร้องเรียน เข้าหารือเสนอแนะเพื่อให้เกิดการแก้ไขตามขั้นตอนกระบวนการกฎหมาย และเป็นระเบียบเรียบร้อยตลอดมา เราคาดหวังว่าการประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ 20 มิถุนายน 2560 ที่ผ่านมารัฐบาลจะมีมติแก้ไขปัญหานี้ ก่อนการบังคับและลงโทษประชาชน ในเส้นตาย 23 มิถุนายน 2560

แต่เรารู้สึกผิดหวังอย่างมาก เมื่อทราบว่าไม่มีมติคณะรัฐมนตรี ใดๆ ต่อเรื่องนี้ ในความจริง รัฐบาลได้รับทราบปัญหาและข้อเสนอของเรามาโดยตลอดแล้ว และยิ่งทราบว่า สิ่งที่ประชาชนเสนอคือ “หยุดการบังคับใช้กฎหมายที่ไม่เป็นธรรมต่อชุมชน เป็นการชั่วคราว จนกว่าจะมี การแก้ไขพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทยในประเด็นนี้แล้วเสร็จ ไม่ใช่แค่ลดค่าปรับ ลดค่าเช่า เพราะ “ชุมชนดั้งเดิมไม่ใช่สิ่งล่วงล้ำลำน้ำ” ที่ต้องถูกลงโทษ

ในวันนี้เราจำเป็นต้องเรียกร้องผ่านสาธารณะไปถึงรัฐบาล ขอให้ดำเนินการเพื่อเห็นแก่ “ประชาชนธรรมดา” อย่างเร่งด่วน ต่อไปนี้

Advertisement

1) ขอให้คณะรัฐมนตรีและสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เริ่มกระบวนการเพื่อปรับปรุงแก้ไข พระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย (ฉบับที่ 17) พ.ศ.2560 และฉบับ พ.ศ.2456 และแก้ไขกฎ กระทรวงคมนาคมที่เกี่ยวข้อง ให้สอดคล้องกับวิถีชุมชน ชายฝั่งและชุมชนริมน้ำ โดยกฎหมายใหม่ ควรมีบทบัญญัติว่าด้วย ชุมชนชายฝั่งและ ชุมชนริมน้ำ ไว้เป็นการเฉพาะ และกำหนดมาตรการที่แตกต่าง แต่ละประเภทกิจกรรม โดยแก้ไขอย่างมีส่วนร่วม ที่เครือข่ายพร้อมนำเสนอในโอกาสต่อไป

2) ขอให้รัฐบาลชะลอการบังคับต่อชุมชน กรณีไม่แจ้งสิ่งล่วงล้ำลำน้ำ จนกว่าจะมีการแก้ไข พระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย (ฉบับที่ 17) พ.ศ.2560 ตามข้อ 1 แล้วเสร็จ

นายบรรจง นะแส นายกสมาคมรักษ์ทะเลไทย กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดจาก พรบ.การเดินเรือในน่านน้ำไทยนั้น มีอยู่หลายประการ ตามแถลงการณ์ ซึ่งได้พยายามชี้แจงเพื่อขอให้นำไปสู่การแก้ไข แต่เมื่อรัฐไม่ได้ให้ความสำคัญกับความเดือดร้อนของประชาชน จึงได้เตรียมที่จะเคลื่อนไหวพร้อมกันทั่วประเทศในเร็วๆ นี้ โดยในขณะนี้บางจังหวัดที่ได้รับผลกระทบก็อยู่ระหว่างการแสดงพลัง ณ.ศาลากลางจังหวัด แต่ในเร็วๆ นี้ ก็จะมีการระดมกำลัง ชวนพี่น้องประชาชนผู้ได้รับ ความเดือดร้อนทุกกลุ่ม เตรียมแสดงตนพร้อมกัน “เมืองกรุง” ในวันเวลาที่จะแจ้ง ในโอกาสเร็วๆ นี้ เพื่อติดตามผลการแก้ไขปัญหานี้ให้ได้ข้อยุติ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image