ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 22 มิถุนายนว่า เจ้าหน้าที่ป่าไม้ สนธิกำลังร่วมกับเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทุ่งทะเล เข้าตรวจยึดพื้นที่บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าเกาะกลาง พื้นที่โครงการฟื้นฟูและอนุรักษ์ป่าทุ่งทะเล อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ต.เกาะกลาง อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ เนื้อที่เกือบ 100 ไร่ พบมีการบุกรุกกรานต้นเสม็ดล้มตายจำนวนมาก ล้อมรั้วจับจองพื้นที่ โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย และยังมีการข่มขู่เอาชีวิตเจ้าหน้าที่ด้วย
นายทรงคุณ ดาลัดกวิน หัวหน้าชุดปฏิบัติการที่ 2 สำนักงานสนับสนุนป้องกันและปราบปรามที่ 4 (ภาคใต้) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช นายสุวัฒน์ สุขสิริ หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทุ่งทะเล นายสุคนธ์ บัวกิ่ง หัวหน้าหน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ กบ.9 (เกาะกลาง) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติ 5 (บก.ปทส.) สายตรวจสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 จนท.ฐานปฏิบัติการป้องกันรักษาป่าพื้นที่ราบเขานอจู้จี้ และ จนท.โครงการฟื้นฟูและอนุรักษ์ป่าทุ่งทะเล อันเนื่องมาจากพระราชดำริร่วมกว่า 30 นายเข้าตรวจสอบพื้นที่โครงการฟื้นฟูและอนุรักษ์ป่าทุ่งทะเล อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.กระบี่ ตามแนวพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเกาะกลางเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทุ่งทะเล ท้องที่หมู่ 3 ต.เกาะกลาง อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ ภายหลังรับแจ้งว่ามีนายทุนบุกรุกครอบครอง โดยการกรานต้นไม้ให้ยืนต้นตาย แล้วล้อมรั้ว จับจองพื้นที่ ปลูกปาล์มน้ำมันจำนวนมาก
จากการตรวจสอบพื้นที่พบว่าอยู่ในเขตพื้นที่โครงการฟื้นฟูและอนุรักษ์ป่าทุ่งทะเล อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ส่วนใหญ่เป็นป่าต้นเสม็ดขาว พบมีการบุกรุกกรานโคนต้นที่มีขนาดใหญ่เพื่อให้ยืนต้นตายจำนวนมาก และพบร่องรอยการตัดต้นไม้ขนาดเล็กในพื้นที่ไปทำรั้วลวดหนาม ล้อมรอบบริเวณกว้าง รวมเนื้อที่จำนวน 91 ไร่ 2 งาน 60 ตร.ว. และนำต้นปาล์มน้ำมันอายุประมาณ 2-3 ปีมาปลูก รวมจำนวน 78 ต้น เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดพื้นที่ไว้และรู้ตัวบุคคลที่กระทำผิดแล้ว ทราบชื่อคือนายอูหมาก ขาวแดง บ้านเลขที่ 61 ต.เกาะกลาง อ.เกาะลันตา ซึ่งขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพื้นที่ได้มีญาติของนายอูหมากเข้ามาสังเกตการณ์ และอ้างว่าพื้นที่ดังกล่าวชาวบ้านได้ครอบครองมานาน แต่ไม่สามารถแสดงเอกสารสิทธิได้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ กบ.9 ได้แจ้งข้อหากระทำผิด พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 แจ้งความดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวน สภ.เกาะกลาง เพื่อดำเนินคดีฐานบุกรุก ยึดถือครอบครองที่ดิน ตัดโค่น แผ้วถาง ทำลายต้นไม้ในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าฯโดยไม่ได้รับอนุญาต มาตรา 42(3) และมาตรา 54
นายสุวัฒน์เปิดเผยว่า พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเกาะกลาง และพื้นที่ป่าโครงการฟื้นฟูฯอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่ผ่านมาถูกบุกรุกมาอย่างต่อเนื่อง โดยไม่เกรงกลัวกฎหมายจากนายทุนในพื้นที่ ทั้งการลักลอบเผาป่าและกรานต้นไม้ให้ยืนต้นตายเพื่อจับจองพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมัน โดยเมื่อปี 2556 ได้มีการแจ้งความดำเนินคดีกับผู้บุกรุกไปแล้ว แต่คดีไม่มีความคืบหน้า เนื่องจากผู้บุกรุกเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ จึงเป็นปัญหาที่เรื้อรังมานาน ซึ่งหลังเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ก็เคยถูกข่มขู่หลายครั้งจนถึงขั้นจะเอาชีวิต แต่ก็ต้องทำหน้าที่ต่อไปเพื่อปกป้องผืนป่าโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริเอาไว้
