การบ้าน’การเมือง’ โดย วรศักดิ์ ประยูรศุข

อาจารย์เสกสรรค์ ประเสริฐกุล ออกมาพูดเที่ยวนี้ ผู้สนใจการบ้านการเมือง คงไม่ยอมพลาด

ในปาฐกถาหัวข้อ “ทิศทางการเมืองไทยกับสังคม 4.0” อาจารย์เสกสรรค์อ่าน “การเมืองไทย” ไว้อย่างแทงทะลุหลายประเด็น

อย่างที่ระบุว่า รัฐบาล คสช.ไม่ใช่รัฐบาลชั่วคราว หากเป็นรัฐบาลที่มีชุดความคิด และประสงค์ปรับปรุงเปลี่ยนแปลง ตามความคิดของตัวเองด้วย

เพราะปฏิวัติเสร็จ แทนที่จะแก้ปัญหาที่เป็นเงื่อนไขให้ต้องใช้อำนาจพิเศษเข้ามา

Advertisement

กลับเดินหน้ากำหนดนโยบายต่างๆ ทั้งเศรษฐกิจ สังคม การเมือง ซึ่งล้วนเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา

ข้อสังเกตจากอาจารย์เสกสรรค์นี้ ใครติดตามการเมือง จะเห็นชัดว่า ต่างจากรัฐประหารที่ผ่านๆ มาจริง รวมถึงรัฐประหาร 2549 ซึ่งมีเสียงตามมาว่า “เสียของ”

เที่ยวนี้ คสช. ปักหลักชูคำว่า “ปฏิรูป” แล้วจับงานใหญ่ ทำงานแบบรัฐบาลเลือกตั้งกันเลย

Advertisement

อาจารย์เสกสรรค์ ชี้ว่า รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 สะท้อนแจ่มชัดว่า กลุ่มอำนาจขณะนี้ ต้องการทวงคืนและรักษาพื้นที่ส่วนใหญ่ในเวทีอำนาจไว้อย่างถาวร

และจำกัดนักการเมืองไม่ให้กุมอำนาจนำอีกต่อไป ดังปรากกฏในมาตรา 91 ที่ได้เปลี่ยนระบบเลือกตั้งเป็นการจัดสรรปันส่วนผสม

ทำให้พรรคใหญ่ถูกจำกัด โอกาสรัฐบาลพรรคเดียวน้อยลงไป ขณะที่บทเฉพาะกาลในรัฐธรรมนูญ เปิดโอกาสให้คนนอกมาเป็นนายกฯ

โครงสร้างอำนาจนี้จะอยู่ไปนาน เพราะโดนตรึงด้วยการที่รัฐธรรมนูญแก้ไขยากมาก

แผนปฏิรูปประเทศ และยุทธศาสตร์ชาติ เป็นข้อจำกัดในการกำหนดนโยบายของรัฐบาลเลือกตั้ง และกลายเป็นต้องใช้นโยบายของ คสช.ไป

อาจารย์เสกสรรค์ฟันธงว่า การกุมอำนาจจะดำเนินต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 9-10 ปี

ใครอ่านข่าวการเมืองจะเห็นการสัมภาษณ์ปฏิเสธว่า จะอยู่ได้ยังไง ปีหน้า 2561 มีเลือกตั้งแน่นอน

ซึ่งก็ไม่ได้ขัดแย้งกัน เพราะถ้าอ่านปาฐกถาของอาจารย์เสกสรรค์ จะรู้สึกว่า เลือกหรือไม่เลือก การกุมอำนาจก็เกิดขึ้นได้

อาจารย์เสกสรรค์ ยังกล่าวถึง “อำนาจนำ” ซึ่งจะเกิดขึ้นด้วย นโยบายสำคัญ ได้แก่ 4.0 และประชารัฐ

โดยเฉพาะประชารัฐเป็นการจับมือกันระหว่างภาครัฐ ภาคประชาสังคม และภาคธุรกิจเอกชน เคลื่อนไหวสู่มวลชนระดับฐานราก

จะทับซ้อนกับฐานเสียงของนักการเมือง ถ้าสำเร็จ การเมืองภาคตัวแทนกลายเป็นโมฆะได้

ก่อนสรุปว่า สิ่งที่ คสช.เสนอเป็นนับความท้าทายครั้งใหญ่ ถ้าพรรคการเมืองคิดได้ไม่มากไปกว่านี้ หรือเล่นการเมืองแบบเดิมๆ รอส่วนแบ่งอำนาจ ก็จะยิ่งไปกันใหญ่

อาจารย์เสกสรรค์กล่าวว่า ทางรอดเดียวของพรรคการเมือง ต้องร่วมมือกันอย่างเหนียวแน่น ตอบโต้คำท้าในทุกประเด็น พิสูจน์ให้ได้ว่าเหนือกว่า ดีกว่าและเป็นธรรมมากกว่าแนวคิดของฝ่ายอนุรักษนิยม

ซึ่งถ้าเกิดขึ้นจริง จะเป็นปรากฏการณ์ที่น่าเร้าใจเป็นอย่างยิ่ง อาจารย์เสกสรรค์ว่าอย่างนั้น

สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องใหญ่ระดับชิงระบอบ

และเตือนว่า ฝ่ายหนึ่งดูมีสำนึกและยุทธศาสตร์ในการต่อสู้ มากกว่านักการเมือง ซึ่งมุ่งชัยชนะแคบๆ แค่ชัยชนะของบุคคลหรือพรรคตน

การบ้านชุดนี้ไม่ง่าย ต้องรอฟังนักการเมืองจะว่ายังไงกัน

……………..

 

วรศักดิ์ ประยูรศุข

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image