เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าคดีที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นจำเลย ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ และเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และความผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 กรณีละเลยไม่ระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าว ทำให้รัฐเสียหายกว่า 5 แสนล้านบาท ว่า ขณะนี้คดีอยู่ในช่วงการไต่สวนพยานจำเลย เหลืออีก3นัด คือวันที่ 29 มิถุนายน มีการไต่สวนพยานจำเลย 3 ปาก ,วันที่ 7 กรกฎาคม ไต่สวนพยานจำเลย 8 ปาก และนัดสุดท้ายวันที่ 21 กรกฎาคม ไต่สวนพยานจำเลย 8 ปากสุดท้าย ส่วนเรื่องจะมีการขอไต่สวนพยานเพิ่มในคดีหรือไม่ ขณะนี้ยังไม่มีจะขอไต่สวนพยานที่ยื่นบัญชีไว้ให้หมดก่อนจะมีการพิจารณาอีกครั้ง หากมีการไต่สวนพยานนัดสุดท้ายวันที่21กรกฎาคมเสร็จสิ้น ศาลคงจะให้โอกาสคู่ความแถลงปิดคดี ตรงนี้ขึ้นอยู่กับคู่ความว่าจะแถลงด้วยวาจาหรือลายลักษณ์อักษร ศาลจะกำหนดวันไต่สวนพยานปากสุดท้ายว่าจะให้แถลงปิดคดีภายในกี่วัน และนัดฟังคำพิพากษาในวันที่เท่าไหร่
ผู้สื่อข่าวถามว่าปกติแล้วคดีในศาลฎีกาฯนักการเมืองจะใช้เวลาในการพิจารณาคำพิพากษานานหรือไม่ นายนรวิชญ์กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่มีความเเน่นอน ขึ้นอยู่กับปัญหาข้อเท็จจริงว่ามีมากน้อยแค่ไหน บางคดีเป็นคดีเล็กข้อเท็จจริงไม่เยอะไต่สวนนัดสุดท้ายอีก15วันนัดฟังคำพิพากษาก็มี เท่าที่ผ่านมาไม่เห็นว่ามีคดีที่มีรายละเอียดข้อเท็จจริงเยอะ อย่างคดีปล่อยกู้กรุงไทย ใช้เวลาไม่นาน คดีในศาลฎีกาฯนักการเมืองจะใช้เวลาในการพิจารณาทำคำพิพากษาไม่นาน
เมื่อถามว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะแถลงปิดคดีด้วยวาจาด้วยตนเองหรือไม่ นายนรวิชญ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้กำหนดกัน ว่าจะใช้วิธีใดในเรื่องการแถลงปิดคดี
