สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า หุ้นกลุ่มพลังงานในตลาดเอเชียประสบปัญหาอีกครั้งเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน หลังจากที่ราคาน้ำมันร่วงแรงในขณะที่ความกังวลเรื่องปริมาณการผลิตเกินความต้องการกลับมาอีกครั้ง โดยราคาน้ำมันดิบทั้ง 2 สัญญาหลักร่วงลงเกือบ 2 เปอร์เซ็นต์เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน แม้ว่าปริมาณน้ำมันคงเหลือในคลังของสหรัฐอเมริกาจะลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ก็ตาม
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสของสหรัฐร่วงลง 1.6 เปอร์เซ็นต์เมื่อวันที่ 21 มิถุนายนมาอยู่ที่ 42.50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งถือเป็นการปิดที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคมเป็นต้นมา ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ทะเลเหนือลดลงมาปิดที่ 44.78 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลซึ่งใกล้เคียงกับระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน
ขณะที่บรรดานักวิเคราะห์ระบุว่า องค์การกลุ่มประเทศผู้ส่งน้ำมันเป็นสินค้าออก (โอเปก) และรัสเซียจะต้องประกาศมาตรการลดกำลังการผลิตมากกว่านี้
อย่างไรก็ตาม วิกฤตราคาน้ำมันมีขึ้นในช่วงเวลาที่ความตึงเครียดระหว่างประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโอเปกอย่างซาอุดีอาระเบียกับกาตาร์และอิหร่าน อีก 2 ชาติสมาชิกโอเปกพุ่งสูงส่งผลให้มีโอกาสน้อยมากที่จะเกิดความร่วมมือในการลดกำลังการผลิต