พระเทวทัต ผู้อหังการ : โดย ประสิทธิ์ พฤกษาจารสิริ

พระเทวทัตเป็นพระประยูรญาติใกล้ชิดกับราชวงศ์ศากยะ มีศักดิ์เป็นพระญาติวงศ์กับพระพุทธเจ้า ภายหลังจากพระพุทธองค์ได้ตรัสรู้พระสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว ได้ทรงประทานอุปสมบทให้แก่พระเทวทัตด้วยเอหิภิกขุอุปสัมปทา เหตุที่ทรงมีพระเมตตาต่อพระเทวทัตทั้งที่ทรงหยั่งทราบว่าพระเทวทัตมีเจตนามุ่งร้ายต่อพระองค์ เพราะหากไม่ทรงบวชให้แก่พระเทวทัตแล้ว พระเทวทัตจะทำกรรมหนักยิ่งกว่าที่ได้กระทำต่อพระองค์ หากเป็นเช่นนั้น พระเทวทัตจะต้องไปเกิดในอบายภูมิเสวยทุกขเวทนาอย่างไม่จบสิ้น หมดภพหมดชาติที่จะสืบต่อไปได้

ตามอรรถกถาเสรีววาณิช ขุททกนิกายชาดก ได้กล่าวถึงเหตุในภพชาติปางก่อนที่ทำให้พระเทวทัตผูกพยาบาทอาฆาตจองเวรพระพุทธองค์มาตลอด จนกระทั่งชาติสุดท้ายและชาติปัจจุบัน พระเทวทัตได้เกิดเป็นชูชกและเจ้าชายเทวทัตเป็นลำดับมา

การจองเวรผูกพยาบาทเป็นการกระทำที่บุคคลคนหนึ่งก่อกรรมทำเข็ญสร้างความทุกข์ยากให้แก่บุคคลอีกคนหนึ่งนับเนื่องมาตั่งแต่ครั้งอดีตชาติ เพื่อล้มล้างบุคคลผู้นั้นให้ตกจากอำนาจวาสนา ไร้ตำแหน่งแห่งหนและอำนาจปกครองที่ประชาชนได้มอบหมายให้ เป็นความรู้สึกสะใจที่ได้ทำลายล้างบุคคลผู้นั้น เป็นความรู้สึกสาแก่ใจที่ได้ก่อความแตกแยกปั่นป่วนวุ่นวายแก่บ้านเมืองและใช้กำลังบังคับให้บุคคลผู้นั้นต้องสละอำนาจและคืนตำแหน่งหน้าที่ของตนที่ได้รับมอบหมายมาจากประชาชนโดยชอบธรรม ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้จองเวรนั้นได้เข้าครอบครองอำนาจวาสนานั้นแทน

ดั่งเช่นพระเทวทัตที่ได้ก่อความวุ่นวายปั่นป่วนเพื่อให้เกิดความแตกแยกในหมู่สงฆ์เพื่อหาทางแย่งชิงอำนาจปกครองสงฆ์ไปจากองค์พระศาสดา

Advertisement

แม้ได้ทำลายล้างบุคคลผู้นั้นสำเร็จแล้ว แต่การอาฆาตจองเวรยังไม่สิ้นสุด ผู้ล้มล้างการปกครองยังเดินหน้าหาทางกลั่นแกล้งเพื่อกำจัดบุคคลผู้นั้นต่อไปอย่างไม่ลดละ ด้วยการกล่าวโทษ ใส่ร้าย ยึดทรัพย์สิน ปิดกั้นสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ดั่งเช่นพระเทวทัต แม้จะยึดอำนาจปกครองสงฆ์มาเป็นของตนแล้ว แต่ยังไม่ยอมเลิกรา ยังคงผูกพยาบาทพระพุทธองค์ต่อไปด้วยการใสช้างตกมันเข้าทำร้ายพระพุทธองค์ จ้างนายธนูลอบยิงพระพุทธองค์ และกลิ้งหินจากหน้าผาให้ตกใส่พระองค์ ทั้งนี้ด้วยจิตใจที่ใฝ่หาแต่ผลประโยชน์ส่วนตัวและจิตใจที่มีแต่ความอาฆาตพยาบาทเป็นที่ตั้ง

การกล่าวโทษใส่ร้ายผู้ถูกล้มล้างที่บริสุทธิ์ด้วยจิตอาฆาตพยาบาทนั้น ได้กลับกลายเป็นการกล่าวโทษในเรื่องที่ประชาชนทั่วไปต่างเห็นดีเห็นชอบและไม่เคยมีผู้ใดร้องเรียนกล่าวโทษเลย เพิ่งจะมีข้อกล่าวโทษเช่นนั้นภายหลังจากได้โค่นล้มและทำลายล้างบุคคลผู้นั้นแล้ว แต่กลับปรากฏว่าเรื่องที่กล่าวโทษนั้นเป็นเรื่องที่ประชาชนทั้งหลายกลับให้การสนับสนุนและยกย่องสรรเสริญในคุณงามความดีที่ได้ดำเนินนโยบายเช่นนั้น

เช่นเดียวกับที่พระเทวทัตกล่าวโทษพระพุทธองค์ว่าทรงหย่อนยานในเรื่องพระธรรมวินัยที่อนุญาตให้ภิกษุฉันเนื้อสัตว์ และยอมให้สงฆ์กลับคืนสู่หมู่บ้านได้ แต่การกล่าวโทษพระพุทธองค์เช่นนั้น พระเทวทัตกระทำไปด้วยจิตที่มุ่งทำลายพระพุทธองค์และหวังยึดอำนาจปกครองสงฆ์เป็นของตน

Advertisement

การกำจัดบุคคลที่เป็นที่สรรเสริญยกย่องของประชาชนจึงไม่ต่างจากที่พระเทวทัตหาทางกำจัดพระพุทธองค์ที่ได้รับการสรรเสริญจากสงฆ์สาวกทั้งหลาย ทั้งนี้ ด้วยแรงอาฆาตพยาบาทที่ฝังแน่นอยู่ในจิตใจของพระเทวทัต ด้วยความมุ่งหวังที่จะขึ้นเป็นผู้ปกครองประเทศ เป็นองค์ศาสดาแห่งพระพุทธศาสนาแทนพระพุทธองค์ ด้วยความมักใหญ่ใฝ่สูงเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองที่จะตกได้แก่ตนและพรรคพวกของตนเป็นสำคัญ

ผู้เฝ้าจองเวรและผูกพยาบาทเพื่อโค่นล้มศัตรูทางการเมือง แม้จะอ้างความชอบธรรมเพื่อไม่ให้บ้านเมืองเกิดความปั่นป่วนแตกแยก แต่เป็นการกล่าวอ้างที่มาจากจิตใจที่สกปรกและเป็นอกุศลที่เกิดจากการสมคบคิดกับกลุ่มอันธพาลและกับพระเจ้าอชาตศัตรูเพื่อล้มล้างการปกครองที่มาจากประชาชน ดังนั้นจึงหาความเชื่อถือและความไว้วางใจในบุคคลที่กล่าวอ้างความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง แต่กลับมาจากจิตใจที่มุ่งทำให้บ้านเมืองแตกแยกเพื่อหาผลประโยชน์ส่วนตัวไม่ได้เลย

ดังเช่นพระเทวทัตที่กล่าวอ้างความชอบธรรมในการออกกฎระเบียบเพื่อให้สงฆ์สาวกอยู่แต่ในป่าและห้ามฉันเนื้อสัตว์ แม้การกล่าวอ้างนั้นจะฟังดูดี แต่ทำไปด้วยเจตนาจะยกขึ้นเพื่ออวดแสดงว่าตนเป็นพระที่อยู่ในพระธรรมวินัยเคร่งครัดที่ควรแก่การยกย่อง แม้เป็นการกล่าวอ้างที่มุ่งความดีงาม แต่กลับมาจากจิตใจที่มุ่งอาฆาตพยาบาทและจิตใจที่หวังผลประโยชน์ทางการเมืองของตนเท่านั้น

แม้จะแสดงตนว่าเป็นผู้ห่วงใยสังคม ต้องการให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย แต่แท้จริงแล้วมาจากจิตใจที่มีแต่ความหื่นกระหายที่จะทำลายศัตรูทางการเมือง มีความทะยานอยากที่จะขึ้นครองอำนาจ ดั่งพระเทวทัตที่แสดงออกว่าต้องการให้สงฆ์สาวกมีระเบียบวินัยดีขึ้น แต่แท้จริงแล้วกลับไปสมคบคิดกับพระเจ้าอชาตศัตรูที่มุ่งทำลายระบอบการปกครองที่ชอบธรรม และทำลายพระพุทธศาสนาเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว

แม้จะแสดงตนเป็นคนดี เป็นผู้นำการปกครอง มีความมุ่งมาดปรารถนาที่จะให้สังคมเกิดความสงบสุข ให้ประเทศชาติได้รับการพัฒนาเจริญก้าวหน้า แต่เป็นความมุ่งหวังที่อยู่ภายใต้การครอบงำของจิตใจที่เต็มไปด้วยความอาฆาตพยาบาท จิตใจที่ต้องการล้มล้างการปกครองที่ชอบธรรมไปสู่การปกครองที่ใช้อำนาจเผด็จการของตนแต่ผู้เดียว ดั่งพระเทวทัตที่มีจิตใจผูกพยาบาทมุ่งทำลายพระพุทธศาสนา แต่สิ่งที่แสดงออกภายนอกเป็นเพียงจำอวด เป็นเพียงคำอวดอ้างที่จะสร้างความมั่นคงให้แก่พระพุทธศาสนาอันเป็นคำเลื่อนลอยทั้งสิ้น

ลำพังสิ่งที่แสดงออกด้วยความปรารถนาดีที่กระทำต่อหน้าประชาชนเพื่ออวดอ้างนั้นเป็นแต่เพียงสิ่งที่เรียกว่าเปลือกนอกที่ผู้คนทั้งหลายหรือใครๆ ต่างสามารถปั้นแต่งเสแสร้งทำขึ้นได้ทั้งนั้น จะทำให้เลอเลิศวิเศษวิโสยิ่งกว่านี้อีกสักร้อยเท่าพันเท่าก็สามารถปั้นแต่งได้ เพราะเป็นเพียงการแสดงออกเพื่อหวังผลประโยชน์ทางการเมือง เสมือนดั่งพระเทวทัตที่มุ่งทำลายพระพุทธศาสนาด้วยการแสดงจำอวดว่ามีความมุ่งมาดปรารถนาจะให้สงฆ์สาวกทั้งหลายอยู่ในพระธรรมวินัยที่เคร่งครัด

ลำพังการแสดงจำอวดว่ามีความหวังดีต่อหมู่คณะ ต่อบ้านเมืองและต่อประเทศชาติจึงกลายเป็นสิ่งเลื่อนลอยเพ้อเจ้อและไม่อาจสร้างระบอบการปกครองที่ชอบธรรมที่แท้จริงได้ ไม่อาจทำให้หมู่คณะ สังคมและประเทศชาติเจริญก้าวหน้าได้หากว่าประชาชนทั้งหมดไม่ร่วมแรงร่วมใจกันอย่างพร้อมเพรียงเพื่อช่วยกันผลักดันสังคมและประเทศชาติให้เคลื่อนไปข้างหน้า

ลำพังแต่กลุ่มบุคคลเพียงกลุ่มเดียวจึงไม่มีพลัง ไม่มีแรงศรัทธา ไม่มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเพียงพอที่จะสร้างชาติพัฒนาบ้านเมืองได้เหมือนอย่างที่ประชาชนทั้งประเทศร่วมแรงร่วมใจกัน สิ่งที่กลุ่มบุคคลดังกล่าวทำได้เป็นเพียงแค่จำอวด เฉกเช่นพระเทวทัตที่สมคบกับพระเจ้าอชาตศัตรูเพื่อล้มล้างการปกครองอันชอบธรรม คำกล่าวอ้างของพระเทวทัตที่จะสร้างแคว้นมคธและจรรโลงพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองจึงเป็นเพียงแค่จำอวดเท่านั้น

บัดนี้ การแสดงจำอวดของพระเทวทัตที่อ้างว่าจะสถาปนาพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองนั้นได้จบสิ้นลงแล้ว เป็นจำอวดที่สร้างรอยมลทินและความด่างพร้อยให้แก่พระพุทธศาสนาอย่างมากมาย เป็นความโง่เขลาของพระเทวทัตที่คิดอ่านจะปกครองสงฆ์ในพระพุทธศาสนาแทนองค์พระศาสดา

เป็นความเบาปัญญาของพระเทวทัตที่วาดหวังจะขึ้นเป็นผู้ปกครองหมู่สงฆ์โดยขาดการพิจารณาไตร่ตรองว่ารากเหง้าแห่งจิตใจของตนนั้นแท้จริงแล้วไม่ต่างจากกลุ่มโจรที่เข้าปล้นชาติบ้านเมืองและเข้าเข่นฆ่าองค์พระศาสดาเพียงเพื่อหวังในอำนาจวาสนาของตนและพรรคพวกเท่านั้น

ท้ายที่สุด จำอวดของพระเทวทัตไม่อาจรอดพ้นสายตาของมัจจุราชผู้นำความตายและวิบากกรรมอันน่าสะพรึงกลัวมาสู่พระเทวทัตได้ ผืนแผ่นดินได้รับรู้และตระหนักถึงคุณค่าและความดีงามของจิตใจอันแท้จริง ผืนแผ่นดินเป็นพยานรู้เห็นการกระทำที่มุ่งร้ายต่อระบอบการปกครองและมุ่งทำความแตกแยกให้แก่บ้านเมือง แผ่นดินนี้รับรู้คุณค่าของบุคคลจากจิตใจที่ดีงาม รับรู้ความชั่วร้ายที่กระทำต่อชาติบ้านเมืองให้เกิดความแตกแยก

ธรณีนี้ได้สูบร่างพระเทวทัตจมหายไปในปฐพีเพราะจิตใจที่ไร้คุณธรรมของพระเทวทัตที่ทำลายการปกครองและทำสงฆ์ให้แตกแยก

ประสิทธิ์ พฤกษาจารสิริ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image