เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 22 มิถุยายน พ.ต.อ.พงษ์พันธ์ บรรจงจิตร ผกก. สภ.ปากช่อง พร้อมด้วย พ.ต.ต.ศุภกร รสชอบ สว.จร.สภ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร ตั้งจุดตรวจสัมพันธ์ กวดขันวินัยจราจร และป้องกันการลำเลียงยาเสพติดการกระทำผิดกฎหมายอื่นๆ บริเวณถนนมิตรภาพสายเก่า ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา มีรถเก๋ง ออนด้า ซิตี้ สีขาว ขับมาจากตัวเมืองปากช่อง มุ่งหน้าเข้าเมืองโคราช เมื่อมาถึงจุดตรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้สัญญาณให้รถจอด เพื่อขอตรวจสอบรถยนต์ และขอตรวจใบอนุญาตใบขับขี่ ผู้ขับขี่รถได้นำใบขี่ออกมาแสดงต่อหน้าตำรวจ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบแล้วพบว่าใบอนุญาตผิดสังเกต และคนขับรถเก๋งแสดงอาการพิรุธ ตกใจ แววตาลอกแลก คล้ายกับมีอาการกระทำผิดกฎหมายมา หลังตรวจสอบใบขับขี่พบว่าเป็นใบขับขี่ปลอม มีสีและลักษณะผิดจากของจริงของกรมการขนส่ง สอบสวนผู้ขับขี่รถเก๋ง บอกว่าจำไม่ได้ว่าทำมาเมื่อไร จากขนส่งที่ไหน จังหวัดไหน บอกทำมานานแล้ว และจำไม่ได้ว่าได้ทดสอบข้อเขียน หรือสอบขับรถหรือไม่อย่างใด
พ.ต.อ.พงษ์พันธ์ บรรจงจิตร ผกก.เปิดเผยว่า .ก่อนหน้านี้ ได้ตรวจจับผู้ขับขี่ใช้ใบอนุญาตขับขี่ปลอม ในพื้นที่จากการตั้งจุดตรวจและตรวจจับ พบใบขับขี่ปลอม ร่วม 10 ใบ ในพื้นที่ ซึ่งในวันนี้ก็พบใบขับขี่ปลอม เพื่อให้แน่ใจจึงให้ เจ้าหน้าตำรวจได้ตรวจสอบผ่านระบบ POLIS (โปลิส) ซึ้งเป็นฐานข้อมูลของสำนักงานตำรวจ ที่เชื่อโยงกับขนส่ง พบว่าไม่มีข้อมูลไม่มีการทำใบขับขี่รถยนต์ตลอดชีพแต่อย่างใด คนขับรถเก๋งคันดังกล่าว ใช้ใบขับขี่ปลอม แสดงต่อตำรวจให้หลงเชื่อว่าเป็นฉบับจริง จึงได้จับกุมตัว แจ้งข้อหา ถือว่าใช้เอกสารทางราชการ ใบขับขี่ปลอม จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป และทราบว่ามิจฉาชีพแอบทำใบขับขี่ปลอมขาย ใบล่ะ 4,000 – 5,000 บาท ตำรวจกำลังขยายผลติดตามตัวการทำใบขับขี่ปลอมหลอกขายประชาชน
ด้าน นายเดชา สุกลกาญจนดล หัวหน้าสำนักงานขนส่งจังหวัดนครราชสีมา (สาขาปากช่อง) กล่าวว่า ตนเองย้ายมาดำรงตำแหน่ง ที่ปากช่อง ได้เข้มงวดการทำใบขับขี่ ไม่ง่ายเหมือนเมื่อก่อน ต้องอบรม สอบทุกขั้นตอนตามระบบ อย่าหลงเชื่อมิจฉาชีพ ใบขับขี่จริง ไม่มีขายเด็ดขาด เกรงอันตรายและเป็นห่วงความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน…หวั่นประชาชนตกเป็นเหยื่อคนร้ายหลอกซื้อใบขับขี่ปลอมโดยไม่รู้ตัว มีโทษหนักมาก ฐานปลอมแปลงใช้เอกสารทางราชการปลอม (ใบขับขี่ปลอม) มีโทษหนักปรับไม่เกิน 2 แสนบาท จำคุกไม่เกิน 5 ปี จึงขอให้ประชาชนที่จะขับขี่รถไม่ว่าจะประเภท ใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคล หรือใบขับขี่ประเภทอื่น ๆ ต้องเข้ามายื่นเอกสารเพื่อเข้าอบรม และสอบข้อเขียน รวมทั้งทดสอบการขับขี่ เมื่อผ่านการทดสอบตามขั้นตอนที่ทางกรมขนส่งระบุ ก็จะได้ใบอนุญาตที่สมบูรณ์ถูกต้อง ไม่ใช่ใปหาซื้อใบขับขี่ปลอมแบบง่าย ๆ ถูกจับส่งดำเนินคดีไม่คุ้ม
