ปรับแนวทางสืบสวน เหตุระเบิดทหาร-ยิงวัยรุ่นหาของป่า สั่งดึงกำลังคุมเข้มทุกพื้นที่

ปรับแนวทางการสืบสวนเหตุระเบิดทหารเสียชีวิต 6 นาย และวัยรุ่นหาของป่าเสียชีวิต 3 ศพ ด้านแม่ทัพภาคที่ 4 มีคำสั่งห้ามระดับผู้บังคับหน่วยลาพัก และเสริมมาตรการด้วยการดึงกำลังทุกฝ่ายรวมคุมเข้มทุกพื้นที่เต็ม 100 เปอร์เซ็นต์

เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานผลการติดตามชุดคลี่คลายคดีความมั่นคงกรณีคนร้ายก่อเหตุยิงเด็กวัยรุ่นออกหาของป่าเสียชีวิต 3 ศพ เจ็บ 2 ราย ในพื้นที่ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 17 มิถุนายนที่ผ่านมา รวมทั้งเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดทหาร ฉก.ปัตตานี 23 เสียชีวิต 6 นาย เจ็บ 4 นาย เหตุเกิดในพื้นที่ อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยอาการของทหาร 4 นายยังคงมีอาการสาหัส พักรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู และต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด

ส่วนแนวทางสืบสวนสอบสวนหากลุ่มผู้ร่วมกระทำผิดในครั้งนี้ หัวหน้าชุดสืบสวนสอบสวนร่วม ระหว่าง พล.ต.จตุพร กลัมพสุต ผบ.ฉก.ปัตตานี และ พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบก.ภ.จว.ปัตตานี ได้ตั้งวอร์รูมเป็นที่รวบรวมข้อมูลข่าวสารประจำวันในการนำมาวิเคราะห์ประมวลผลก่อนให้แต่ละชุดแยกกันออกปฏิบัติการหาข่าวสืบสวนสอบสวน

โดยครั้งนี้เน้นความเข้มข้นแม่นยำ ด้วยการนำเอาอุปกรณ์เครื่องมือพิเศษเข้ามาช่วยเสริมในการทำงานให้มีประสิทธิภาพรวดเร็วของเจ้าหน้าที่ โดยเริ่มปรับแนวทางการทำงานหลังได้รับหลักฐานที่เป็นพยานวัตถุและพยานบุคคลช่วยแจ้งข้อมูลข่าวสารในทางลับนำมาประกอบการวิเคราะห์หาสิ่งเชื่อมโยงต่างๆ จากผู้มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญเข้ามาร่วมทีม

Advertisement

ล่าสุดสามารถได้หลักฐานสำคัญส่วนหนึ่ง ซึ่งสามารถนำไปสู่หลักฐานเชื่อมโยงจนรู้ตัวบุคลบางส่วนได้ชัดเจนแล้ว ทั้งนี้ ได้จัดแบ่งออกเป็นชุดปฏิบัติการติดตามไล่ล่าในแต่ละพื้นที่มีรายงานหลบหนีเข้าไปกบดานอยู่ในเขตพื้นที่อิทธิพลของกลุ่มแนวร่วม และเจ้าหน้าก็ที่มีข้อมูลพอทราบตัวบุคคลที่คอยให้การช่วยเหลือบางรายแล้ว โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ ต.น้ำดำ อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี ต.ท่าธง อ.รามัน จ.ยะลา รวมถึงในเขตรอยต่อ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส โดยแผนการปฏิบัติยังเป็นการส่งกำลังร่วม 3 ฝ่าย นอกเหนือไปกับการหาข่าวเชิงลึกพิสูจน์ทราบตามข้อมูลเบาะแสทางลับจากผู้หวังดี และมีคำสั่งให้ใช้กำลังเข้ากดดันเต็มพื้นที่ที่มีการเคลื่อนไหวทันที เพื่อเป็นการจำกัดเสรีไม่ให้กลุ่มก่อเหตุรุนแรงสามารถรู้ตัว หรือเตรียมแผนออกนอกพื้นที่ไปสร้างเหตุรุนแรงในห้วง 2-3 วัน ที่จะครบกำหนดห้วง 10 วันสุดท้ายของเดือนรอมฎอนที่จะมาถึงประมาณวันเสาร์ที่ 25 มิถุนายนนี้

พล.ต.จตุพร กลัมพสุต ผบ.ฉก.ปัตตานี กล่าวว่า ในการเปิดแผนและแนวทางการสืบสวนสอบสวนยังได้รับโอกาสให้สามารถเข้ารับฟัง เพื่อเป็นตัวกลางช่วยนำเสนอแผนการปฏิบัติเป็นไปตามหลักมนุษยชน ภายใต้การบังคับใช้กฎหมาย เนื่องจากหลังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกลับมีกลุ่มพยายามเบี่ยงเบนประเด็นการกระทำมาจากฝ่ายเจ้าหน้าที่ เพื่อสร้างความสับสนต่อสังคมที่คอยติดตามการทำงานของฝ่ายเจ้าหน้าที่อย่างใกล้ชิด โดยการปรับแผนยุทธการนำไปสู่ผลการปฏิบัติของกำลังร่วมทุกฝ่าย

ล่าสุดสามารถช่วยให้แนวทางการสืบสวนสอบสวนของฝ่ายเจ้าหน้าที่มีความคืบหน้าและถูกทาบมากกว่าครึ่ง คาดว่าจะมีการออกหมายจับในเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดทหารเสียชีวิต 6 นาย รวมทั้งยังจะช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถออกหมายจับผู้มีส่วนร่วมกระทำผิดเหตุการณ์ที่ผ่านมา คาดว่าจะสามารถรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับเพิ่มในเร็วๆ นี้

Advertisement

พล.ต.จตุพร กลัมพสุต ผบ.ฉก.ปัตตานี กล่าวว่า กองอำนวยการรักษาความมั่นคง (กอ.รมน.) ภาค 4 ส่วนหน้า ได้มีคำสั่งให้เพิ่มมาตรการเข้ามาดูแลพี่น้องประชาชนในทุกรูปแบบ ซึ่งอาจจะเป็นการรบกวนทำให้ประชาชนไม่ได้รับความสะดวกสบายเท่าที่ควร เพราะต้องมีความเข้มงวดมากยิ่งขึ้น โดยถือโอกาสได้ประชาสัมพันธ์ไปถึงผู้ใช้รถใช้ถนนผ่านจุดตรวจทุกคันจะต้องลดกระจกทุกบาน เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจได้ตรวจสอบสิ่งผิดปกติหรืออาวุธวัตถุระเบิด อีกส่วนก็ได้จัดชุดออกลาดตระเวนตามพื้นที่ ตรงนี้ได้ขอเสริมกำลังมาร่วมทำงานแบบเต็มรูปแบบ อีกทั้งยังขอสนับสนุนยุทโธปกรณ์ที่เป็นเครื่องมือพิเศษมาใช้งานทั้งหมด ก็ต้องระดมทั้งคนทั้งเครื่องมือมาช่วยกันเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ รวมไปถึงการนำชุดประจำตำบลหมู่บ้าน ทั้ง ชรบ, อปพร., อส. ออกมาช่วยกันดูแลความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนให้ได้มากที่สุด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image