บิ๊กตู่ประกาศ ปีแห่งการสู้ยาเสพติด กำชับ ตร.นำผู้ต้องหาแถลงข่าว ไม่ปล่อยให้พูดเพ้อเจ้อ

“บิ๊กตู่” มอบรางวัลเกียรติคุณบุคคลและองค์กรที่มีผลงานยอดเยี่ยมและดีเด่นในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดปี 60 สั่งตำรวจปรับแผนแถลงข่าว งดนำผู้ต้องหาโชว์ตัวหลังปล่อยให้พูดเพ้อเจ้อ ประกาศเป็นปีแห่งการปราบปรามยาเสพติด

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 23 มิถุนายน 2560 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานในพิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณบุคคลและองค์กรที่มีผลงานยอดเยี่ยมและดีเด่นในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดประจำปี 2560 พร้อมเยี่ยมชมนิทรรศการเนื่องในวันต่อต้านยาเสพติด โดยมี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ร่วมงาน

นายกฯกล่าวว่า การแก้ปัญหายาเสพติดมีความสำคัญต่อโลกปัจจุบัน เราจำเป็นต้องปรับรูปแบบกระบวนทัศน์ในการทำงานให้มากยิ่งขึ้น องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) กำหนดให้วันที่ 26 มิถุนายนของทุกปีเป็นวันต่อต้านยาเสพติดโลกเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ดังนั้น ทุกภาคส่วนต้องตระหนักและเห็นความสำคัญของการแก้ปัญหายาเสพติด เป็นปัญหาของคนไทยทั้งประเทศ และแม้ทุกฝ่ายจะร่วมมือกัน แต่วันนี้ปัญหายาเสพติดยังคงมีอยู่ หมดสิ้นไปได้ยาก เพราะมีการพัฒนาทั้งการผลิต การขนส่ง การค้าขาย จึงจำเป็นต้องปรับรูปแบบในการทำงาน เตรียมรองรับการเปลี่ยนแปลงตามให้ทันและเดินหน้าเชิงรุก เพราะเรามีทั้งเรื่องการป้องกัน ปราบปราม และฟื้นฟู

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ทุกคนทราบดีถึงอันตรายของยาเสพติด ยกเว้นผู้เสพที่อาจไม่ทราบเท่าที่ควร หรือมีปัญหาภายในครอบครัว จนถูกบิดเบือนและชักจูงโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ในการทำงานของเจ้าหน้าที่ในการแก้ไขปัญหายาเสพติด ตนมีความกังวลในเรื่องความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่และประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้อง กรณีที่มีการบังคับใช้กฎหมาย ใช้อาวุธ และมาตรการต่างๆ ซึ่งอาจกระทบถึงประชาชน จึงขอให้เจ้าหน้าที่ระมัดระวังและให้เกิดการสูญเสียน้อยที่สุด ยึดหลักตามกระบวนการกฎหมายและหลักฐานต่างๆ ต้องชัดเจนสามารถนำไปสู่การดำเนินคดีได้ วันนี้ประเทศเราต้องการคนทั้งหมด 70 ล้านคนช่วยกันทำงาน เรื่องใดสำคัญก็ต้องช่วยกันมากเป็นพิเศษ ซึ่งยาเสพติดถือเป็นวาระแห่งชาติ จะปล่อยปละละเลยไม่ได้

Advertisement

“รัฐบาลมีความมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาของประเทศ ทั้งลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรม กระจายรายได้ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การลงทุนเพื่ออนาคต ซึ่งจำเป็นต้องทำในวันนี้ และยาเสพติดจะทำให้การแก้ปัญหาเหล่านี้ทำไม่ได้ ถ้าสังคมไม่เข้มแข็ง ความร่วมมือ การสร้างประสิทธิภาพต่างๆ การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การศึกษา และเศรษฐกิจก็จะมีปัญหา ทุกคนต้องเร่งสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีต่อสังคม ครอบครัว และประเทศ ทั้งนี้ ผมคาดหวังว่าจากนี้ต่อไปในช่วงที่รัฐบาลปัจจุบันยังคงปฏิบัติหน้าที่อยู่ ผลงานที่ต้องปรากฏมากยิ่งขึ้นคือการป้องกันและปราบปราม รวมทั้งการฟื้นฟูทั้งระบบ โดยความร่วมมือจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง” นายกฯกล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้เรามียุทธศาสตร์และแผนงานพัฒนาประเทศไปจนถึงปี 2579 ด้วยวิสัยทัศน์ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม กฎหมาย กระบวนการยุติธรรม การต่างประเทศ เพื่อลดปัญหาความเหลื่อมล้ำในเรื่องของรายได้ ไม่ใช่เรื่องการแบ่งชนชั้นใดๆ ซึ่งปัญหายาเสพติดเป็นหัวใจสำคัญในการแก้ไขให้ได้ในระดับพื้นที่ที่ต้องบูรณาการร่วมกัน และการรับรางวัลต่างๆ นั้นอยากให้ทุกหน่วยงานได้รับรางวัล ไม่ใช่แค่เฉพาะข้าราชการอย่างเดียว การทำงานต่างๆ จะได้เกิดความปรองดองสมานฉันท์ ทั้งภาครัฐ เอกชน เอ็นจีโอ หรือแม้แต่พระสงฆ์ เราต้องมีความร่วมมือกันในการทำงานก่อน จะได้เกิดความปรองดองสมานฉันท์อย่างแท้จริง ไม่เช่นนั้นก็มีความขัดแย้งกันในเรื่องการเมือง สุดท้ายก็ทำอะไรไม่สำเร็จสักอย่าง

“ในเรื่องกลยุทธ์การปิดล้อมการตรวจค้น ขอแนะนำให้ไปดำเนินการอย่างเหมาะสม มีมาตรการเฉพาะทำให้ชัดเจน โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ต้องมีการกำหนดแผนเผชิญเหตุอย่างชัดเจน ทั้งการเข้า การวางกำลัง การปฏิบัติต่างๆ ทั้งที่มีและไม่มีการต่อสู้ ไม่เช่นนั้นพอถึงเวลาแล้วก็จะเกิดการฉุกละหุก เพราะหลายคนไม่ได้ถูกฝึกมา ขอฝากทาง ป.ป.ส.ช่วยดูแลว่าควรมีหลักสูตรอบรมหรือไม่อย่างไร เพราะบางครั้งต้องยอมรับว่ามีอันตราย ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ได้คาดคิดว่าอีกฝ่ายจะต่อสู้ สุดท้ายก็เกิดการสูญเสียจนถึงชีวิต แสดงให้เห็นถึงมาตรการของเจ้าหน้าที่ยังไม่สมบูรณ์ 100 เปอร์เซ็นต์ จำเป็นต้องมีขั้นตอนการดำเนินการ รวมทั้งการไล่ติดตามตัวคนร้ายที่ผ่านมาก็ยังมีปัญหาเกิดผลกระทบกับผู้บริสุทธิ์ด้วย เรื่องแบบนี้ไม่มีใครอยากให้เกิด อีกทั้งเจ้าหน้าที่ไม่ได้ถูกฝึกมาเพื่อฆ่าคน แต่เมื่อเกิดการต่อสู้ขึ้นมาก็ต้องปรับปรุงวิธีการว่าทำอย่างไรเกิดความปลอดภัยทั้งกับตัวเอง ผู้ต้องหา และผู้บริสุทธิ์ จึงจำเป็นต้องมีมาตรการและแผนปฏิบัติที่รัดกุมเพื่อลดปัญหาการสูญเสีย ซึ่งทุกวันเราสูญเสียเจ้าหน้าที่จำนวนมาก จำเป็นต้องลดจำนวนตรงนี้ลงให้ได้ วันนี้ขอให้ทุกคนมั่นใจว่าฝ่ายความมั่นคงทุ่มเทเสียสละเพื่อให้ประชาชนปลอดภัย แต่การทำงานกรณีที่มีการใช้อาวุธก็อาจเกิดการสูญเสียบ้าง ก็ต้องขอบคุณครอบครัวและภูมิใจในสิ่งที่มีการทำเพื่อประเทศ” นายกฯกล่าว

Advertisement

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า การป้องกันปัญหายาเสพติดสิ่งสำคัญคือตามแนวชายแดน อยากขอความร่วมมือทุกฝ่ายช่วยกันดูแล เช้าวันเดียวกันนี้เห็นข่าวเรื่องการส่งยาเสพติดในไปรษณีย์ต่างประเทศ เรื่องนี้มีการพัฒนาไปเรื่อยๆ เราจึงต้องหันมาดูแลประเทศทั้งในส่วนของคน เทคโนโลยี ระบบไอที ที่ต้องพัฒนาให้ครบทุกพื้นที่ พร้อมๆ กับการสร้างภูมิคุ้มกันในทุกๆ เรื่อง ต้องใช้ทั้งหลักรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ไปพร้อมๆ กัน ไม่เช่นนั้นความขัดแย้งก็จะเกิดขึ้น แม้วันนี้ตัวเองจะพูดเยอะ แต่ก็ยังมีความไม่เข้าใจ แต่ไม่เป็นไร จะขอพูดไปเรื่อยๆ จนกว่าจะรำคาญ แต่ตนรำคาญใครไม่ได้ เพียงแต่ต้องอดทนฟังในสิ่งที่ตนพูดต่อไปเท่านั้น

“ขอให้นโยบายว่า การทำงานในปีนี้จะต้องเป็นปีแห่งการปราบปรามกระบวนการยาเสพติดใหญ่ให้ได้ ส่วนรายเล็กๆ ก็ดำเนินการต่อไป ที่ผ่านมาการดำเนินการได้เพียงรายเล็กๆ จึงมอบให้ทาง ป.ป.ส. กระบวนการยุติธรรม ตำรวจ ฝ่ายความมั่นคงไปดูแลทั้งหมด ทั้งเรื่องโสเภณีเด็ก ยาเสพติด อาชญากรรมรุนแรง จะต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมทั้งหมด เร่งรัดคดีที่ยังไม่เสร็จสิ้น ผมจะไม่เข้าไปเกี่ยวข้อง ให้ทุกอย่างเป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม ส่วนผมจะพยายามทำให้ดีที่สุด ด้วยความร่วมมือจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) และข้าราชการทุกคน มีความตั้งใจเกิน 90 เปอร์เซ็นต์” นายกฯกล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวแนะนำว่า ต่อไปขอให้คัดเลือกผู้ปฏิบัติงานที่เป็นฟันเฟืองเล็กๆ เข้ามารับรางวัลด้วย ไม่ว่าจะเป็นเอ็นจีโอ ผู้สื่อข่าว แต่ขอให้ได้รับความคุ้มครอง ดูแลบุคคลเหล่านี้ให้ดี ไม่ใช่พอได้รับรางวัลวันนี้แต่พอกลับไปในพื้นที่แล้วก็อยู่ไม่ได้ ดังนั้น การเปิดเผยข้อมูลต่างๆ รวมทั้งการแถลงข่าวต่างๆ ต้องมีการปรับรูปแบบใหม่

“ขอฝากทางตำรวจด้วยว่า การแถลงข่าวโดยเอาตัวผู้ต้องหามาแถลงข่าวด้วยนั้น คิดว่าบางครั้งคงไม่จำเป็น ไม่ต้องนำมา เพียงแค่เห็นรูปก็เพียงพอ ไม่ใช่ให้ออกมาพูดจาเลอะเทอะไปหมดไม่ได้ เพราะเขาเป็นผู้ต้องหาไม่มีสิทธิพูดอะไรทั้งสิ้น ไปพูดในกระบวนการยุติธรรมเท่านั้น ไม่ใช่ออกมาพูดกับสื่อ และสื่อก็ไม่ต้องไปถามผู้ต้องหา เรื่องนี้ต้องรับผิดชอบร่วมกัน แม้จะเห็นใจกับการทำงานของสื่อว่าอยากได้ข่าว แต่บางครั้งทำให้เกิดผลเสีย” นายกฯกล่าว

ทั้งนี้ ในปี 2560 มีบุคคลได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณระดับยอดเยี่ยมในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด 5 ราย อาทิ พระภาวนาวรคุณ เจ้าอาวาสวัดภาวนาภิรตาราม พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 และรางวัลโล่ผู้ร่วมรณรงค์วันต่อต้านยาเสพติดโลก อาทิ น.ส.ปลื้มจิตร์ ถินขาว นักวอลเลย์บอลทีมชาติไทย นายศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร หรือโต๋ ศิลปินนักร้อง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image