วันที่ 23 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานเรื่องโครงการปรับปรุงพระตำหนักกว๊านพะเยา ซึ่งจังหวัดพะเยาได้ทำการรื้อถอนพระตำหนักฯ โดยไม่ได้แจ้งต่อสาธารณะอย่างกว้างขวางที่ผ่านมา ทำให้มีประชาชนชาวพะเยาจำนวนมากไม่พอใจ และบางกลุ่มเสนอขอให้ชะลอโครงการและตั้งคณะกรรมการขึ้นมาใหม่ก่อนที่จะดำเนินโครงการต่อ
ล่าเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน จังหวัดพะเยา โดยนายณรงค์ศักดิ์ เฉลิมเกียรติ ผู้ว่าราชการจังหวัด ได้เชิญนายวิมล ปิงเมืองเหล็ก ปราชญ์ท้องถิ่นและอาจารย์พิเศษมหาวิทยาลัยพะเยา(มพ.) เข้าประชุมร่วมกับผู้เกี่ยวข้องในโครงการปรับปรุงพระตำหนักกว๊านพะเยา ณ ห้องประชุมชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดพะเยา อ.เมืองพะเยา จ.พะเยา เพื่อหาทางออกในการดำเนินโครงการต่อไป
นายวิมล กล่าวภายหลังจากร่วมประชุมว่า ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยาได้เชิญตนและผู้เกี่ยวข้องในการปรับปรุงพระตำหนักกว๊านพะเยาเข้าประชุม เพื่อสร้างความเข้าใจและแก้ปัญหาต่อไปในอนาคต ตนได้เสนอข้อเสนอต่อที่ประชุมตามจุดยืนเดิมที่เคยได้เสนอมาก่อนหน้านี้ คือ
1.คณะทำงานที่ทำงานผิดพลาดที่ได้ทำการรื้อถอนพระตำหนักกว๊านพะเยา ที่ประทับทรงงานของสมเด็จย่าในอดีต จะต้องขอรับผิดและขอโทษประชาชนชาวพะเยาตามสื่อต่างๆ คือ รายการผู้ว่าพบประชาชน เสียงตามสาย เฟสบุ๊ค หรือช่องทางอื่นๆ
2.การจะก่อสร้างหรือไม่ก่อสร้างพระตำหนักฯ ขึ้นมาใหม่ ควรถามประชาชนชาวพะเยาผ่านคณะอนุกรรมการอนุรักษ์และพัฒนาเมืองเก่าพะเยา ที่แต่งตั้งโดยรองนายกรัฐมนตรี ตามมติคณะรัฐมนตรี(ค.ร.ม.) วันที่ 20 มกราคม 2560
3.ให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการโครงการโดยให้มีสัดส่วนของภาคประชาชนเข้าร่วมด้วย
“ข้อเสนอดังกล่าวทางผู้ว่าฯ และที่ประชุมเห็นชอบและปฏิบัติตามนั้น ส่วนเรื่องการเป็นคณะกรรมการนั้นจังหวัดกำลังพิจารณาที่จะเชิญภาคประชาชนเข้าร่วม สำหรับผมไม่ขอรับตำแหน่งใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่มีความถนัดเรื่องการก่อสร้าง เขียนเป็นแต่งานวิชาการ ที่ผ่านมาผมเป็นคนทักท้วงโครงการดังกล่าวฯ ดังนั้นผมจะไม่เข้าเป็นคณะกรรมการฯหรือรับตำแหน่งใดๆ ทั้งสิ้น” นายวิมล กล่าว
ด้านนายชุมพล ลีลานนท์ ผู้ประสานงานเครือข่ายสภาประชาชน 17 จังหวัดภาคเหนือ เปิดเผยว่า ทางภาคประชาชนก็จะทำการจัดตั้งคณะกรรมการภาคประชาชนขึ้นมาชุดหนึ่ง เป็นคณะกรรมการภาคประชาชนคู่ขนานกับคณะกรรมการของภาครัฐ โดยจะที่ทำหน้าที่ติดตาม ตรวจสอบโครงการการปรับปรุงพระตำหนักฯ รวมทั้งโครงการอื่นๆ ของภาครัฐ ที่มาจากเงินภาษีของประชาชน เพื่อให้มีการดำเนินการอย่างโปร่งใส และเคารพสิทธิและเสียงของประชาชนชาวพะเยา ซึ่งการติดตามตรวจสอบจะเป็นการให้ข้อคิด ตั้งข้อสังเกตเพื่อให้แต่ละโครงการมีประสิทธิภาพ ไม่ใช่การจับผิดแต่อย่างใด
