เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีการก่อสร้างโรงงานน้ำตาล แห่งที่ 3 ในเขตตำบลห้วยใหญ่ อ.เมืองเพชรบูรณ์ ที่มีข่าวแพร่สะพัดการเข้ามากว้านซื้อที่ดินในเขตตำบลห้วยใหญ่นับพันไร่ พร้อมกับมีการติดต่อล็อบบี้นักการเมืองท้องถิ่นและนักปกครองท้องที่บางรายในหลายตำบล เพื่อเป็นปากเสียงในการจูงใจชาวบ้าน ทำให้ชาวบ้านในเขตพื้นที่ตื่นตัว ใช้สื่อโซเชียลมีเดียจุดกระแสต่อต้าน ให้รู้เท่าทันกลยุทธ์ของทางโรงงาน และระมัดระวังถูกกลุ่มผู้นำที่เห็นแก่ผลประโยชน์ชักจูงให้เห็นคล้อยตาม นอกจากนี้ยังให้ช่วยกันติดตามสอดส่องการเข้ามาส่งเสริมให้ปลูกอ้อยในพื้นที่อีกด้วย
นายวิศัลย์ โฆษิตานนท์ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดเพชรบูรณ์และแกนนำต่อต้านไม่เอาเหมืองแร่ โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กถึงความคิดเห็นในการก่อสร้างโรงงานแห่งที่ 3 มีผู้แสดงความเห็นอย่างหลากหลาย ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยให้เหตุผลว่า ที่ผ่านมามีโรงงานน้ำตาลถึง 2 แห่ง ที่ อ.ศรีเทพ และอ.บึงสามพัน น่าจะเพียงพอแล้ว ทั้ง 2 สองแห่งก็ยังมีปัญหามวลชนต่อต้าน การมีโรงงานน้ำตาลแห่งที่ 3 ผุดขึ้นอีก จะทำให้เกิดปัญหาด้านมลภาวะและมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเช่นกัน นอกจากนี้พื้นที่ตอนบนของจังหวัดเป็นพื้นที่ต้นน้ำป่าสักเหมาะสมกับการทำการเกษตรมากกว่า การก่อสร้างเป็นโรงงานน้ำตาล
นายเสกสรร นิยมเพ็ง นายกเทศมนตรี เมืองเพชรบูรณ์ โพสต์เฟซบุ๊ก ตั้งคำถามว่า “เพชรบูรณ์เมืองอยู่สบายจริงหรือ” หากมีโรงงานน้ำตาลแห่งที่ 3 ห่างตัวเมือง 20-30 กม. ให้ประชาชนเตรียมตัวรับปัญหาด้านต่างๆ ตามมา ทั้งไร่อ้อยที่ทำลายดิน เผาอ้อยที่จะเกิดหิมะสีดำและรถขนอ้อยไปโรงงานจะเกิดอุบัติเหตุและทำลายถนน ที่สำคัญแรงงานต่างด้าวจะเข้ามามากมายพร้อมปัญหาสังคมอื่นๆ วิถีชีวิตและบ้านเมืองอันสงบสุขของห้วยใหญ่ก็จะพังพินาศไปตลอด
ยังมีชาวเพชรบูรณ์บางส่วนที่ใช้สื่อโซเชียลมีเดียรณรงค์ต่อต้านโรงงานน้ำตาลแห่งที่ 3 อาทิ เฟซบุ๊ก “สำนึกรักษ์ห้วยใหญ่” เป็นต้น
