มติเอกฉันท์ สนช.ผ่านร่างกม.ศาลปกครอง ไฟเขียววาระประธาน4 ปี เริ่มนับใหม่

มติเอกฉันท์ สนช.ผ่าน ร่างกม.ศาลปกครอง ไฟเขียว วาระปธ. 4 ปี เริ่มนับใหม่หลังกฎหมายประกาศใช้

ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า ในการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่มีนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสนช.คนที่ 1 ทำหน้าที่ประธาน ได้มีมติเอกฉันท์ 142 เสียง งดออกเสียง 3 เสียง เห็นชอบให้ร่างพ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง (ฉบับที่…) พ.ศ. … ประกาศใช้เป็นกฏหมายต่อไป ทั้งนี้ ช่วงหนึ่งของการพิจารณาได้มีข้อโต้แย้งระหว่าง กรรมาธิการ (กมธ.) เสียงข้างมาก กับ กมธ.เสียงข้างน้อย ในประเด็นการนับวาระดำรงตำแหน่งของประธานศาลปกครองสูงสุด ซึ่งตามกฎหมายจัดตั้งศาลปกครองฯเดิมสามารถดำรงตำแหน่งได้ถึง 70 ปี แต่ในร่างกฎหมายนี้กำหนดใหม่ให้ดำรงตำแหน่ง 4 ปี โดยเริ่มนับหนึ่งตั้งแต่ร่างกฎหมายประกาศใช้ จากการแก้ไขดังกล่าวทำให้การดำรงตำแหน่งก่อนหน้านี้ของประธานศาลปกครองสูงสุดไม่ถูกนับรวม โดย พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม ในฐานะกมธ.เสียงข้างน้อย ได้ลุกขึ้นอภิปรายว่า การแก้ไขครั้งนี้เป็นการต่ออายุให้แก่ประธานศาลปกครองสูงสุด ซึ่งเป็นการทำเพื่อคนคนเดียว ถือว่าไม่เป็นประโยชน์สาธารณะ ดังนั้น สนช.ต้องใช้ดุลยพินิจให้ดี ทำอะไรไปต้องรับผิดชอบ

ด้าน พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ ประธานคณะกมธ.วิสามัญฯ ชี้แจงว่า กมธ.เห็นตรงกันว่าให้ประธานศาลปกครองสูงสุดดำรงตำแหน่ง 4 ปี แต่มีประเด็นว่าจะนับวาระตั้งแต่เมื่อไหร่ ตามร่างนับแต่วันโปรดเกล้าฯ ขณะเดียวกันมีสมาชิกสนช. 2 คน ได้แก่นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ และนายตวง อันทะไชย แปรญัตติให้นับวาระการดำรงตำแหน่งตั้งแต่กฎหมายบังคับใช้ เพราะเห็นว่าเดิมไม่มีกำหนดวาระไว้ กล่าวคือประธานศาลปกครองสูงสุดอยู่ได้จนอายุครบ 70 ปี ครั้งเมื่อกำหนดวาระให้อยู่เพียง 4 ปี จึงไม่ควรรอนสิทธิ์ เพราะประธานศาลฯได้ถอยมาแล้วหนึ่งก้าว จากที่เคยอยู่ได้ 70 ปี มาเหลือ 4 ปี หากจะให้ถอยอีกเห็นว่าไม่เป็นธรรม ดังนั้นจึงเห็นควรให้มีวาระ 4 ปีเต็ม ไม่ใช่นำเวลาที่บริหารปีกว่าก่อนหน้านี้มานับรวมด้วย อย่างไรก็ตาม ถ้าเห็นด้วยตามที่กมธ.เสียงข้างมากแก้ไข ก็จะเป็นเรื่องให้ความเป็นธรรม ไม่สุดซอย อยู่ตรงกลางพอดี และขอยืนยันว่าเป็นการพิจารณาด้วยเหตุผล ไม่ได้ยึดตัวบุคคล

ต่อมา นายกล้านรงค์ จันทิก ในฐานะกมธ.เสียงข้างมาก ได้ลุกขึ้นอภิปรายว่า ระหว่างการอภิปรายเกือบจะลุกขึ้นประท้วงพล.อ.สมเจตน์ เพราะอภิปรายขัดข้อบังคับ ว่าการแก้ไขของ กมธ.เป็นการแก้ไขเพื่อเอื้อผลประโยชน์ ไม่สุจริต ซึ่งตนยืนยันว่า ตลอดระยะเวลาการทำงานของตนไม่เคยใช้หลักนี้ จุดยืนคือไม่เห็นด้วยที่ออกกฎหมายใหม่แล้วมีผลย้อนหลัง เดิมที่ประธานศาลปกครองฯไม่มีวาระดำรงตำแหน่งสามารถอยู่ได้ถึง 70 ปี หรืออยู่ได้ถึงปี 2565 ซึ่งตนเห็นด้วย ทั้งนี้ หากอยู่ตามที่กมธ.แก้ไขเพิ่มเติมจะอยู่ได้ถึงปี 2564 ถ้าอยู่ตามร่างกฎหมายเดิมอยู่ได้ถึงปี 2563 แตกต่างเพียงแค่ 2-3 ปี อย่างไรก็ตาม การอภิปรายของพล.อ.สมเจตน์มีลักษณะใส่ร้ายเสียดสี ว่าการแก้ไขของกมธ.ไม่สุจริต เพื่อผลประโยชน์ และอาศัยความชอบพลอ ตนไม่เห็นด้วย ทำให้ พล.อ.สมเจตน์ ต้องลุกขึ้นขอถอนคำพูด เพราะไม่ได้เจตนาจะกล่าวหากมธ. แต่ก็มีบางคำที่ตนไม่ได้อภิปรายเช่นกัน จากนั้นกมธ.เสียงข้างมากทยอยลุกขึ้นอภิปรายสนับสนุนให้เริ่มนับระยะเวลาการดำรงตำแหน่งของประธานศาลปกครองสูงสุด ตั้งแต่กฎหมายประกาศใช้

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image