กสทช. แจงแพร่เนื้อหาผิดกฎหมายผ่านOTTมีโทษเท่าช่องทีวีดิจิทัล จับตา3รายยังเฉย

พ.อ.นที ศุกลรัตน์ รองประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ OTT (Over The Top) กล่าวในการประชุมชี้แจงเพื่อเตรียมความพร้อมในการเป็นผู้ให้บริการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ OTT ว่า หลักการของ OTT คือ เป็นผู้ประกอบกิจการแพร่ภาพและกระจายเสียงผ่านช่องทางออนไลน์ ถือเป็นอีก 1 กลุ่มผู้ประกอบกิจการที่กสทช.จะต้องเข้าไปกำกับดูแลเพิ่มเติมจากกลุ่มฟรีทีวี ทีวีดาวเทียม และเคเบิ้ลทีวี โดยผู้ประกอบการ OTT จะได้รับการยกเว้นจะได้การยกเว้น โดยการไม่มีต้องใบอนุญาต ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม ไม่ต้องนำส่งผังรายการ ไม่ต้องดำเนินการตาม ประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์การเผยแพร่กิจการโทรทัศน์ที่ให้บริการเป็นการทั่วไป (มัสต์แครี่) และ ประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์รายการโทรทัศน์สำคัญที่ให้เผยแพร่ได้เฉพาะในบริการโทรทัศน์ที่เป็นการทั่วไป พ.ศ.2555 (มัสต์แฮฟ) อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการโอทีที ที่มาแจ้งชื่อกับ กสทช. แค่เขียนส่งเอกสาร 2 หน้า ก็ถือเป็นผู้ให้บริการ OTT ที่อยู่ภายใต้กฎหมายของประเทศไทย

ทั้งนี้  ในด้านการกำกับดูแลผู้ประกอบการOTT ทาง กสทช. จะใช้กฎหมายและเกณฑ์พิจารณาเดียวกันกับผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์ที่มีใบอนุญาตกับ กสทช. อาทิ ทีวีดิจิทัล ทีวีดาวเทียม และเคเบิ้ลทีวี จะส่งผลให้ กสทช. สามารถลงโทษด้วยมาตรฐานเดียวกัน คือปรับ 500,000 บาท โดยเบื้องต้น ทีวีดิจิทัล มีผู้มารับทราบและดำเนินการแจ้งไปแล้ว 24 ราย ในส่วนของผู้ให้บริการโครงข่ายหรือแพลตฟอร์ม OTT ได้มารับทราบและดำเนินการไปแล้ว 11 ราย ขาดเพียง ยูทูป เฟซบุ๊ก และเน็ตฟลิกซ์ โดย กสทช. ยังมีเวลาให้จนถึงวันที่ 22 กรกฎาคม

“ผมยังเชื่อว่าท้ายสุดทั้ง 3 รายจะยอมรับกติกาและเป็นผู้ให้บริการOTT ภายใต้กฎหมายไทย แต่ในทางกลับกัน หากทั้ง 3 รายหรือหากมีผู้ให้บริการรายอื่นๆในอนาคต ไม่มาเข้ามาสู่ระบบจะถือว่าไม่อยู่ภายใต้กฎกติกาและกฎหมายไทย การให้บริการคงไม่มีปัญหา แต่การทำธุรกิจหลังจากนั้นคงลำบาก ซึ่งกสทช.มองว่าการเข้ามาอยู่ในระบบถือเป็นเรื่องที่สมควรเพราะอย่างเฟซบุ๊กหรือยูทูป เข้ามาทำธุรกิจในไทยมีรายได้ 4,000-5,000 ล้านต่อปี จะไม่ยอมทำตามกฎหมายหรือจ่ายภาษีบ้างเลยหรือ ที่ผ่านก็อ้างแต่ไม่มีนิติบคคลในไทย ถ้าเป็นแบบนี้กันหมดอนาคตประเทศไทยจะเอาเงินจากไหนมาพัฒนาประเทศ ทั้งที่ทรัพยากรก็มาใช้ของประเทศไทย” พ.อ.นที กล่าว

พ.อ.นที กล่าวว่า วันที่ 27 มิถุนายน กสทช. จะมีการเชิญผู้ที่มีช่องรายการบนยูทูป หรือ ยูทูปเปอร์ ที่มีผู้ติดตามอยู่ใน 50 อันดับแรกของประเทศไทยมาประชุมเพื่อเตรียมพร้อมในการเป็นผู้ให้บริการ OTT ส่วนวันที่ 28 มิถุนายน จะมีการประชุมชี้แนวทางการโฆษณาผ่าน OTT แก่กลุ่มเอเจนซี่โฆษณา และวันที่ 29 มิถุนายน จะประชุมชี้แจงแนวทางการโฆษณาผ่าน OTT แก่กลุ่มบริษัท 50 อันดับแรกในประเทศไทย ที่มีมูลค่าการซื้อโฆษณาออนไลน์สูงที่สุด

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image