จากกรณีที่นายวชิระ อริยะพงษ์กรณ์ อายุ 41 ปี พนักงานร้านจำหน่ายอาหารสัตว์นำหลักฐานเป็นสำเนาเอกสารการฝากเงินเข้าบัญชีของธนาคารแห่งหนึ่งใน อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท มาร้องทุกข์ขอความเป็นธรรม จากเหตุการณ์ที่นายจ้างให้นำเงินสดจำนวน 80,000 บาทไปเข้าบัญชี ซึ่งตนก็นับเงินต่อหน้านายจ้างว่าครบถ้วน ก่อนนำไปยังเคาน์เตอร์ธนาคาร และเขียนเอกสารนำฝากจำนวน 80,000 บาท ตามจำนวนเงิน แล้วส่งให้พนักงานทำการตรวจนับและออกสลิปรายการรับฝากให้ แต่ตรวจสอบภายหลังพบว่าพนักงานออกสลิปรายการรับฝากให้เพียงแค่ 40,000 บาท และภาพวิดีโอจากกล้องวงจรปิดพบว่าพนักงานธนาคารมีการแยกเงินออกเป็น 2 ส่วนแล้วนำไปเข้าเครื่องนับเพียงส่วนเดียว แล้วเก็บอีกส่วนเข้าลิ้นชักโดยไม่มีการตรวจนับ และผ่านมา 2 เดือน คดีไม่มีความคืบหน้าจนต้องร้องขอเปลี่ยนพนักงานสอบสวน และร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชัยนาท
เมื่อวันที่ 23 มิถุนายนที่ผ่านมา พนักงานสาวของธนาคารที่เกิดเหตุที่ปรากฏในคลิปที่เป็นข่าว ซึ่งถูกเจ้าของร้านขายอาหารสัตว์เจ้าของเงิน และนายวชิระลูกจ้างผู้นำเงินไปฝาก แจ้งความในข้อหาลักทรัพย์ ได้เดินทางมายังสถานีตำรวจภูธรวัดสิงห์ พร้อมด้วยผู้จัดการสาขาและทนายความ เพื่อพบกับ พ.ต.ท.สุทัศน์ นาคพงศ์ หัวหน้าพนักงานสอบสวน และรับทราบข้อกล่าวหา โดยปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์หรือข้อมูลใดๆ กับสื่อมวลชน และเปิดโอกาสให้ถ่ายภาพเพียง 1 นาที โดยทนายความกล่าวเพียงว่าพนักงานสาวยังไม่พร้อมที่จะให้สัมภาษณ์หรือให้ข้อมูล และจะให้ข้อมูลผ่านทางฝ่ายสื่อสารองค์กรของธนาคารเท่านั้น ซึ่งพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำเบื้องต้นแล้วปล่อยตัวชั่วคราว โดยจะนัดสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้งในภายหลัง พร้อมทั้งเปิดเผยว่า ทางธนาคารสาขาที่เกิดเหตุได้ส่งคลิปภาพไปยังสำนักงานใหญ่ เพื่อนำเข้าโปรแกรมเพิ่มความคมชัดเจน และจะนำมาแสดงต่อพนักงานสอบสวน เป็นหลักฐานทางคดีเพิ่มเติมต่อไป
