ครอบครัวไม่ติดใจหน.งานอนามัยดับ เชื่อเป็นอุบัติเหตุ ญาติ 4 เหยื่อเศร้ารับศพนิติเวช จุฬาฯ

ขอบคุณภาพจากมูลนิธิร่วมกตัญญู

จากกรณีที่ น.ส.ปัณฐิกา ตาสุวรรณ อายุ 23 ปี นิสิตนักศึกษาปีที่ 5 คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เข้าไปศึกษาดูงานที่บริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ ซอยบางนาตราด 20 ถนนบางนาตราด กม.2.5 ฝั่งขาเข้า แขวงและเขตบางนา กรุงเทพฯ ก่อนหมดสติพลัดตกลงไปในบ่อบำบัดเสียของโรงงานก่อนที่พนักงานโรงงานจะลงไปช่วยเหลือแต่เสียชีวิตไปด้วยรวม 5 ราย แพทย์ระบุผู้เสียชีวิตทั้งหมดขาดอากาศหายใจ ขณะที่กลุ่มบริษัทเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด (มหาชน) ได้แถลงการณ์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวญาติของผู้เสียชีวิตรายละ 3 ล้านบาท

ความคืบหน้าล่าสุดกรณีเหตุสลดนิสิตสัตวแพทย์ จุฬาฯ พร้อมพนักงานซีพีเอฟตกบ่อบำบัดน้ำเสียดับนี้เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 09.30น. วันที่ 24 มิถุนายน ที่ สน.บางนา นางนารี อาชโยธา น้าสาวพร้อมด้วยพ่อและแม่ของนายพรศักดิ์ บุญบาล อายุ 40 ปี หัวหน้างานอนามัย เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.บางนา เพื่อให้ปากคำและข้อมูลของผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมรวมถึงรับเอกสารเพื่อไปติดต่อขอรับศพที่ภาควิชานิติเวชศาสตร์ รพ.จุฬาลงกรณ์ ก่อนเปิดเผยว่า วันนี้เดินทางมาให้ปากคำเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวนและติดต่อเรื่องเอกสารเพื่อไปรับศพหลานชายที่รพ.จุฬาลงกรณ์ ทั้งนี้ครอบครัวไม่ติดใจกับการเสียชีวิตของหลานชายเชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นอุบัติเหตุและทุกฝ่ายก็ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น แต่หลังเกิดเหตุทราบว่าบริษัทได้ติดต่อเพื่อขอเยียวยาและรับผิดชอบแต่ละครอบครัวแล้ว แต่เงินที่ได้มาไม่ว่าเท่าใดก็คงไม่คุ้มค่ากับการสูญเสียหลานชายไม่สามารถแลกกันได้ แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วก็คงต้องดำเนินการให้ดีที่สุด ยืนยันหลานชายไม่ได้คิดจะฆ่าตัวตาย แต่เป็นการเข้าไปช่วยเหลือบุคคลอื่นจึงเป็นเหตุให้เสียชีวิต ส่วนในอนาคตหากตรวจสอบพบว่าเป็นความบกพร่องหรือประมาทจากหน่วยงานใด ก็พร้อมจะหารือกับครอบครัวเพื่อหาแนวทางการแก้ปัญหาต่อไป

ร.ต.อ.ภูมิวัฒนา ฤทธิ์ทอง รอง สว.สอบสวน สน.บางนา เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมกับเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานและผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องเมื่อวานนี้ ได้รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดและสอบปากคำพยานแวดล้อมไปแล้วบางส่วน หลังจากนี้จะสอบปากคำญาติผู้เสียชีวิต บุคคลที่เกี่ยวข้องและหน่วยงานที่กำกับดูแลทั้งหมด รวมถึงต้องรอผลการชันสูตรพลิกศพจากนิติเวช รพ.จุฬาฯ ก่อนนำหลักฐานทั้งหมดมาประกอบสำนวนสรุปว่าเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุหรือความประมาทของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือไม่ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมจะให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย

ขณะเดียวกันที่ภาควิชานิติเวชศาสตร์ รพ.จุฬาลงกรณ์ เหล่าบรรดาญาติของผู้เสียชีวิตจำนวน 4 ราย เดินทางรับมาศพบุคคลในครอบครัวที่เสียชีวิตจากบ่อบำบัดน้ำเสียภายในบริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) เพื่อรับกลับไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาตามภูมิลำเนาซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า

Advertisement

นางนงลักษณ์ ปัญญาวงศ์ อายุ 37 ปี รับจ้างทั่วไปและเป็นพี่สาว น.ส.ลักษ์ชนก แสนทวีสุข อายุ 23 ปี (ผู้เสียชีวิต) เปิดเผยว่า ก่อนหน้าเกิดเหตุได้พูดคุยกับน้องสาวผ่านทางเฟซบุ๊กในทำนองยินดีกับงานที่ได้เข้าทำเนื่องจากน้องสาวเรียนจบจากสาขาสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ซึ่งน้องนั้นมีความฝันที่อยากจะเข้าทำงานที่บริษัทดังกล่าวอยู่แล้ว หลังจากเรียนจบจากมหาวิทยาลัยมาได้ 1 ปี และเริ่มทำงานที่บริษัทนี้มาประมาณ 1 ปีก่อนจะเกิดเหตุขึ้น เรื่องการเยียวยาจากเหตุดังกล่าวตนทราบจากทางข่าวว่าทางบริษัทจะเยี่ยวยาช่วยเหลือรายละจำนวน 3 ล้านบาทนั้นเบื้องต้นยังไม่ได้รับการประสานหรือติดต่อมา สำหรับครอบครัวตนนั้นมีพี่น้องทั้งหมด 4 คน ซึ่งน้องสาวผู้เสียชีวิตนั้นเป็นลูกคนที่ 2 ปกติแล้วน้องเป็นคนที่มีนิสัยร่าเริงอัธยาศัยดี มีน้ำใจชอบช่วยเหลือผู้อื่น ขณะนี้ทางพ่อแม่ของน้องลักษ์ชนกทราบเรื่องแล้วแต่ยังไม่สามารถทำใจต่อการจากไปของลูกสาวได้ อยากจะฝากไปถึงบริษัทให้มีระบบรักษาความปลอดภัยมากกว่านี้เพราะเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียง อีกทั้งในจุดเกิดเหตุนั้นเป็นพื้นที่อันตรายก็ควรจะมีผู้เชี่ยวชาญประจำควบคุมกำกับดูแลเป็นอย่างดีเพื่อไม่ให้เกิดเหตุในลักษณะนี้ขึ้น อย่างไรก็ตามหลังจากนี้จะนำศพกลับไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดทรัพย์เกษตร ต.โซง อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image