‘กะพงหาวมะนาวโห่’ ต้มส้มสีจ๊าบ รสเจ็บ โดย กฤช เหลือลมัย

ใครขับรถผ่านไปทาง ต.บางนกแขวก อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม คงสังเกตเห็นว่าสวนข้างทางปลูก “มะม่วงหาวมะนาวโห่” (Bengal Currants) หรืออีกชื่อหนึ่งที่คุ้นหูคือ หนามแดง กันมาก ผลสุกของมันรสเปรี้ยวจัด เดี๋ยวนี้คนนิยมคั้นเป็นน้ำผลไม้สีชมพูแกมม่วง ปรุงรสใส่น้ำแข็งก้อน หรือปั่นกินได้ชื่นใจดี และจะว่าไปแล้วความที่มันเป็นไม้พุ่มสูงไม่มากนัก ปลายใบมนสีเขียวใส ดอกช่อสีขาวยาว ทรงปากแตรกลีบแหลมเล็กๆ สวยสะดุดตา เมื่อผนวกกับลูกสุกสีชมพูสดจนถึงม่วงจัด ก็ปลูกเป็นไม้ประดับสวนหน้าบ้านได้เหมาะเจาะดีครับ

ผลไม้รสเปรี้ยวย่อมมีวิตามินซีมาก ส่วนเปลือกสีม่วงจัดแบบนี้อุดมด้วย แอนโทไซยานิน (Anthocyanin) ซึ่งมีฤทธิ์ต้าน สารอนุมูลอิสระ (free radical) ดังนั้น จึงช่วยยับยั้งอาการผิดปกติในร่างกาย เช่น การก่อตัวของเซลล์มะเร็ง เป็นต้น เช่นเดียวกับลูกผักปลัง พิลังกาสา เถาคัน หรือชำมะเลียง

ถ้ายังไม่ได้ปลูกมะม่วงหาวมะนาวโห่ไว้ที่บ้าน แต่อยากลองชิมรสชาติดู เดี๋ยวนี้ก็มีวางขายตามตลาดสดและตลาดน้ำ (แบบ) โบราณมากขึ้นแล้วนะครับ เขาแบ่งใส่ถุงขายราคาแค่ 10-20 บาทเท่านั้น ถ้าไม่ทำน้ำผลไม้แบบที่นิยมกัน อาจจะกินสดเหมือนผลไม้เปรี้ยวอื่นๆ โดยผ่าแคะเม็ดออก จิ้มเกลือหรือพริกกะเกลือก็อร่อยเปรี้ยวจี๊ดจ๊าดดีครับ

แต่ถ้าเราจะเอามาทำอาหารคาวบ้างล่ะ?

Advertisement

คนอื่นๆ อาจคิดไปได้หลายสำรับนะครับ ส่วนผมจะขอลองทำต้มปลาซดน้ำเปรี้ยวๆ หอมๆ ให้ชื่นอกชื่นใจสักหม้อหนึ่งละ ต้องอร่อยแน่ๆ เลย

การจัดแจงตระเตรียมมะม่วงหาวมะนาวโห่เพื่อการนี้ก็ไม่ยากเย็นอะไร เลือกลูกที่เปลือกสีชมพูแกมเหลือง คือลูกที่ยังไม่สุกมากนัก ล้างสะอาด ผ่าครึ่ง แคะเอาเม็ดสีขาวขุ่นๆ รสขมเฝื่อนนั้นทิ้งไป แช่น้ำเกลือเพื่อล้างเอายางออก เท่านั้นเองครับ ถ้าอยากให้น้ำซุปต้มส้มของเรามีสีม่วงสวยมากน้อยตามที่เราชอบ ก็เพิ่มหรือลดลูกแก่สีม่วงจัดๆ นั้นดูครับ ลองสวมวิญญาณศิลปินหน้าเตาไฟกันดูหน่อยเถอะน่า

Advertisement

ต้ม “ส้ม” หม้อนี้ผมใช้ปลากะพง (ถ้าใช้ปลาอื่น เช่น ปลากระบอก ก็คงกลายเป็น “กระบอกหาวมะนาวโห่” ไป) แล่เอาเนื้อหั่นชิ้นบางๆ เตรียมไว้ ส่วนหัวและก้างเอาลงต้มในหม้อน้ำเดือด ใส่เกลือ ตะไคร้ทุบ กระเทียมนิด หอมแดงหน่อย เคี่ยวไปนาน จนได้น้ำสต๊อกปลารสหวาน ก็กรองเอาแต่น้ำไว้ใช้

เมื่อจะกินก็ใส่มะม่วงหาวมะนาวโห่ลงในหม้อน้ำสต๊อกปลาที่เดือดพล่านนั้น ตั้งไฟต่อสักครู่ จนกระไอกลิ่นรสเปรี้ยวชื่นใจพลุ่งขึ้นมาในน้ำซุปที่หอมกลิ่นตะไคร้ หอมแดง กระเทียมแต่เพียงเบาบางนั้นจนเรารู้สึกได้ จึงใส่เนื้อปลาลงไป รอจนเดือดอีกครั้ง เหยาะปรุงรสเค็มให้พอดีด้วยเกลือหรือน้ำปลาที่เราชอบนะครับ ตอนนี้เรามีต้มส้มที่รสเปรี้ยวเค็มอร่อยดีแล้ว แถมน้ำซุปสีชมพูอ่อนสวยทีเดียว จะกินเอารสเปรี้ยวจี๊ด เค็มอ่อนๆ ซดชื่นใจสไตล์เบาๆ เท่านี้ก็ได้ โดยอาจโรยใบแมงลัก ซึ่งมีรสเปรี้ยวอ่อนๆ ไปในทางเดียวกัน แต่งกลิ่นเสียหน่อย

หรือหากใครชอบรสจัด จะบุบพริกขี้หนูสวนเม็ดเล็กๆ หอมๆ หั่นใบผักชีใส่รองก้นชาม แล้วตัก “กะพงหาวมะนาวโห่” ร้อนๆ ใส่ ก็จะได้รสเผ็ดหอมถึงใจเพิ่มมาอีกหน่อย..ของพรรค์นี้ แล้วแต่ลิ้นเราชอบแบบไหน กับอีกอย่างหนึ่งคือเราจะกินมันกับสำรับอะไรอื่นในมื้อนั้นๆ น่ะครับ ลองคิดไตร่ตรองดูให้เสริมรสกันแบบเหมาะๆ เลยเชียว อย่าให้ชิงรสกันพัลวันพัลเกเสียล่ะ

มื้อนั้นจะได้กินข้าวกินปลาอร่อยสมใจไงล่ะครับ..

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image