รับสร้างบ้านครึ่งแรกปีนี้ทรงตัว-ส.ธุรกิจรับสร้างบ้านลุ้นกำลังซื้อดีดกลับครึ่งปีหลัง

????????????????????????????????????

นายพิชิต อรุณพัลลภ นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน เปิดเผยถึงภาพโดยรวมตลาดรับสร้างในช่วงครึ่งแรกของปี 2560 ว่าตลาดค่อนข้างทรงตัว ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผู้บริโภคยังมีความระมัดระวังสูง แต่มองในแง่ดีตลาดน่าจะเติบโตได้ใกล้เคียงกับปีก่อนที่มูลค่าตลาดรวมธุรกิจรับสร้างบ้านในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลอยู่ที่ประมาณ 10,200 ล้านบาท หรือหากจะเติบโตก็ก็น่าจะอยู่ที่ 5-10% จากปี 2559 โดยมีปัจจัยบวกที่สนับสนุนดังนี้คือ 1.การส่งออกที่ดีขึ้น 2.ความชัดเจนในโรดแมปการที่รัฐบาลผ่านรัฐธรรมนูญไปสู่การเลือกตั้ง และ 3.คาดว่าธุรกิจยังจะได้รับอานิสงส์จากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐที่มีความคืบหน้าและชัดเจนมากขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อภาพรวมเศรษฐกิจ จะส่งผลด้านจิตวิทยาและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคดีขึ้น

“ดียังเชื่อมั่นว่ากำลังซื้อค่อยๆ ฟื้นคืนกลับมา โดยเฉพาะกลุ่มผู้บริโภคหมดภาระการผ่อนชำระจากโครงการรถยนต์คันแรก เมื่อภาระการผ่อนรถยนต์ผ่อนคลายแรงกดดันผู้บริโภคกลุ่มนี้ส่วนใหญ่น่าจะเป็นการปรับปรุงบ้านหลังเก่า หรือรื้อบ้านหลังเก่าแล้วปลูกสร้างขึ้นมาใหม่ซึ่งปัจจุบันสถาบันการเงินต่างๆ ก็ได้แข่งขันกันออกแพคเกจดอกเบี้ยพิเศษให้กับผู้บริโภคที่ต้องการปลูกสร้างบ้านบนที่ดินกันมากขึ้น เพราะการปล่อยกู้ให้กับธุรกิจรับสร้างบ้านไม่มีหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) หรือหนี้เสียจึงทำให้สถาบันการเงินสนับสนุนอย่างเต็มที่” นายพิชิตกล่าว

นายพิชิตกล่าวว่า เพื่อรองรับกับกำลังซื้อสมาคมได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดและการขายมาต่อเนื่อง ด้วยการเตรียมจัดงานใหญ่ “รับสร้างบ้านและวัสดุ: Home Builder&Materials Expo 2017” ระหว่างวันที่ 17-20 สิงหาคม 2560 ณ ห้องเพลนารี ฮอลล์ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งในปีนี้ได้รับการตอบรับจากพันธมิตรบริษัทที่ผลิตและจำหน่ายวัสดุก่อสร้างร่วมออกบูธพร้อมกับโชว์นวัตกรรมต่างๆ ภายในงานด้วย

นายพิชิตกล่าวว่า ด้วยปัจจัยต่างๆ ที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ผู้ประกอบการในทุกภาคธุรกิจรวมถึงบริษัทรับสร้างบ้านเองก็ต้องปรับตัว สิ่งที่สำคัญของการนำเสนอแบบบ้านหรืองานบริการนั้นต้องสนองต่อพฤติกรรมของผู้อยู่อาศัยในแต่ละกลุ่มแต่ละวัย การเข้าถึงพฤติกรรมผู้บริโภคและการออกแบบให้เข้าถึงไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิตประจำวันจะช่วยตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ รวมทั้งแบบบ้านนั้นจะต้องเหมาะสมสำหรับครอบครัวคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม และรองรับผู้สูงอายุในอนาคต โดยที่ผ่านมาบริษัทรับสร้างบ้านที่เป็นสมาชิกของสมาคมได้มีการปรับตัวรองรับกับกระแสธุรกิจตลาดที่อยู่อาศัยยุค 4.0 ด้วยการให้ความสำคัญเรื่อง “นวัตกรรม” และเพิ่มความเข้มข้นให้บริการแบบครบวงจร รวมถึงการเป็นพันธมิตรกับผู้ผลิตและจำหน่ายวัสดุก่อสร้างที่ทำให้มีความได้เปรียบในเรื่องต่างๆ ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคเชื่อมั่นในมาตรฐานคุณภาพและบริการซึ่งมีความแตกต่างจากผู้รับจ้างก่อสร้างรายย่อยทั่วไป

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image