เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 60 นายธวัช สุระบาล ผวจ.ศรีสะเกษ เปิดเผยว่า ตนได้รับการร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดศรีสะเกษว่า ที่บ้านเลขที่ 10 หมู่ 6 5 บ้านบัวเตย ต.หนองแก้ว อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ มีการแอบลักลอบขายยาบ้าให้กับกลุ่มวัยรุ่นในเขต ต.หนองแก้ว และตำบลใกล้เคียงมานานแล้วมานานแล้ว ดังนั้น จึงได้สั่งการให้การนายปรีชา ส่งเสริม ปลัดอำเภอและเจ้าพนักงาน ปปส.ได้นำเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจศูนย์ดำรงธรรม จ.ศรีสะเกษ ไปสนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ ตร.สภ.โพนเขวา ไปทำการตรวจสอบ เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงพบ นายอภิรักษ์ หรือรักษ์ จันทร์หอม อายุ 20 ปี นอนอยู่ภายในบ้าน เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงบัตรเจ้าพนักงาน ปปส. เพื่อขอตรวจปัสสาวะ ผลการตรวจปัสสาวะพบว่า ปัสสาวะมีผลเป็นบวก ซึ่งนายอภิรักษ์ ได้รับสารภาพว่าเสพยาบ้าจริง จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้ตรวจค้นในบ้านพบยาบ้าบรรจุอยู่ซองพลาสติกซุกซ่อนอยู่ในกล่องเก็บของ เมื่อแกะออกมาพบว่า มียาบ้าบรรจุอยู่ 589 เม็ด จึงได้ทำการควบคุมตัวนายอภิรักษ์ไว้
ผวจ.ศรีสะเกษ เปิดเผยต่อไปว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจค้นอยู่นั้น ได้มีโทรศัพท์จากเครือข่ายยาบ้าทราบชื่อภายหลังว่าคือ โทรมาหานายอภิรักษ์ และขอซื้อยาบ้าไปเสพ เจ้าหน้าที่จึงได้ติดตามไปที่วัดบ้านบัวเตย เมื่อไปถึงพบพระโกวิทย์ อยู่ภายในกุฏิวัดบ้านบัวเตย เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวและขอตรวจปัสสาวะ ผลปรากฏว่า ปัสสาวะมีผลเป็นบวก จึงได้ควบคุมตัวไปให้เจ้าอาวาสวัดบ้านบัวเตยทำการสึก จากนั้น ได้ตั้งข้อหากับนายโกวิทย์ว่า เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย และตั้งข้อหากับนายอภิรักษ์ว่าเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย และมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า)ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย จากนั้น นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมดไปส่งมอบให้ ร.ต.อ.ณธรรม์ภพ วาโย พนักงานสอบสวน สภ.โพนเขวา ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบสวนเบื้องต้น นายอภิรักษ์ หรือรักษ์ จันทร์หอม อายุ 20 ปี ได้ให้การรับสารภาพว่า ตนได้แอบลักลอบจำหน่ายยาบ้าให้กับวัยรุ่นในเขต ต.หนองแก้วและในเขตตำบลใกล้เคียงมานานแล้ว โดยจะสั่งยาบ้ามาจากเครือข่ายด้าน จ.อุบลราชธานี ครั้งละ 2 – 5,000 เม็ด แต่เมื่อนำยาบ้ามาขายตนจะเสพเองเป็นส่วนมาก ทำให้ต้องติดหนี้ค่ายาบ้าและตนต้องขายยาบ้าเพื่อแลกกับการได้ยาบ้ามาเสพวันละ 3 – 5 เม็ด และได้มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้ในที่สุด
