วันที่ 25 มิ.ย. รายงานข่าวจากสถาบันเกษตรกรยางภาคใต้ เปิดเผยว่า จากสภาวะราคายางไม่ปกติ ส่งผลให้สถาบันเกษตรกรยางขาดทุนทุกราย ซื้อยางมาราคา กก.ละ 59 บาท ขายออก กก.ละ 53 บาท เพราะในครึ่งปีแรก 60 ปริมาณยางในกลุ่มลดลงเหลือประมาณร้อยละ 40 เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกของปี 59 เพราะยางใบร่วงน้ำยางจึงมีน้อย
“ทิศทางการแก้ไขยาง ซ้ำรอยมาแต่ปี 57-60 ทำอะไรไม่ได้ เช่นจะเอายางไปทำถนน จะเอายางไปทำสนาม ยังทำไม่ได้เหมือนเดิม” แหล่งข่าวจากสถาบันเกษตรกรยางภาคใต้ระบุ
ทั้งนี้ สถาบันเกษตรกรในภาคใต้จำนวนหลายแห่งได้พัฒนาแปรรูปผลิตภัณฑ์ยาง ทำการตลาดและส่งออกเองใน จ.ยะลา พัทลุง ตรัง นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี สามารถเก็บยางได้แห่งละ 30,000 กก. รวมเก็บยางได้หลายหมื่นตัน หากราคาตกต่ำจะใช้เงินทุนไม่มาก โดยได้มีการประชุมระหว่างสถาบันเกษตรกรยางกับตัวแทนรับซื้อยางจากต่างประเทศ เช่น กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ที่ จ.สงขลา หารือในการผลิตยาง แปรรูปยางและการซื้อขายยางมาแล้ว จึงมีความหวังว่าราคายางจะกระเตื้องขึ้น
ขณะที่แหล่งข่าวจากกลุ่มค้ายางภาคใต้เปิดเผยว่า ขณะนี้พ่อค้ายางรายเล็ก รายกลาง และรายขนาดใหญ่ ที่ซื้อขายแผ่นดิบ ยางรมควัน ได้หยุดกิจการไปถึงร้อยละ 80 เหลือประมาณร้อยละ 20 หลายแห่งขาดทุนสูง 10 ล้านบาท
