ชาวบ้านครึ่งหมู่บ้าน ขึ้นโรงพักแจ้งความ หวั่นถูกคุกคาม หลังร้องทุจริตโครงการประชารัฐ

หวั่นอิทธิพลมืดเหตุประเด็นร้องประชารัฐชาวบ้านครึ่งหมู่บ้านแห่แจ้งความ

2 อดีตผู้ใหญ่บ้านบ้านลาดสมบูรณ์ และลูกบ้าน กว่า 100 คน ซึ่งเข้าชื่อร้องตรวจสอบทุจริตโครงการประชารัฐ แห่แจ้งความตำรวจ ขอความคุ้มครอง ภายหลังน้องเมียผู้ใหญ่บ้านบุกข่มขู่นักข่าว จนหวาดผวาอิทธิพล จี้ นายอำเภออย่าเกียร์ว่าง ให้รีบจัดการเพราะชาวบ้านเขาเดือดร้อน

จากกรณีชาวบ้านลาดสมบูรณ์ หมู่ 9 ต.บึงวิชัย อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ นำโดยไพบูลย์ ไชยคำนวน อายุ 42 ปี และตัวแทนชาวบ้านได้รวมตัวกันเข้าตรวจสอบศาลาประชาคมหมู่บ้าน ที่สร้างจากงบประมาณโครงการประชารัฐ หลังทำการก่อสร้างแล้วเสร็จและส่งมอบเรียบร้อยแล้ว จากการตรวจสอบระบุว่าไม่ได้มาตรฐาน ปริมาณงานน้อย ไม่คุ้มค่ากับงบประมาณ 2 แสนบาท และเงินกองกลางหมู่บ้านหายไป 5 พันบาท ซึ่งที่ผ่านมาได้ร้องต่อศูนย์ดำรงธรรม อ.เมืองกาฬสินธุ์ แต่ไม่มีความคืบหน้า จึงเรียกร้องให้ สตง. และ ปปช. เข้าตรวจสอบ

ต่อมาได้มีหญิงวัยกลางคน พร้อมด้วยชายวัยรุ่น และหญิงวัยรุ่น รวม 3 คน อ้างว่าเป็นญาตินายบัญชา อุ่นมีศรี ผู้ใหญ่บ้านลาดสมบูรณ์ หมู่ 9 ต.บึงวิชัย อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ บุกเข้ามายังห้องทำงานสมาคมนักข่าวกาฬสินธุ์ พร้อมกับข่มขู่ เนื่องจากไม่พอใจที่นำเสนอข่าวชาวบ้านร้องเรียน และนักข่าวได้ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวัน ที่สภ.เมืองกาฬสินธุ์ กับ พ.ต.ต.สมทรง เวียงปฏิ พนักงานสอบสวนสภ.เมืองกาฬสินธุ์ เพื่อให้ดำเนินคดีกับบุคคลทั้ง 3 เนื่องจากไม่ทราบถึงวัตถุประสงค์ และเกรงว่าจะไม่ได้ความปลอดภัย เพราะถือว่าการกระทำทั้ง 3 คนถือเป็นการข่มขู่ คุกคามสื่อ และเป็นการบุกรุกตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

Advertisement

ล่าสุด วันที่ 25 มิถุนายน 2560 เวลา 13.30 น. ที่ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ชาวบ้านลาดสมบูรณ์ หมู่ 9 ต.บึงวิชัย อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ นำโดยนายเกสร สุวรรณราช อายุ 77 ปี นายเฉลิม อุ่นมีศรี อายุ 72 ปี ซึ่งทั้ง2 คนเป็นอดีตผู้ใหญ่บ้านลาดสมบูรณ์ หมู่ 9 และนายไพบูลย์ ไชยคำนวน อายุ 42 ปี ตัวแทนชาวบ้าน พร้อมด้วยชาวบ้านจำนวน 100 คน ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.อ.สิทธิ์ ประเสริฐสังข์ พนักงานสอบสวน เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน โดยระบุว่าเกรงไม่ได้รับความปลอดภัยจากผู้มีอิทธิพลในชุมชน หลังผู้สื่อข่าวสมาคมนักข่าวกาฬสินธุ์ ถูกคนใกล้ชิดผู้ใหญ่บ้าน คือน้องเมียกับลูกชายบุกข่มขู่ถึงห้องทำงาน เหตุไม่พอใจที่นำเสนอข่าวชาวบ้านร้องเรียนผู้ใหญ่บ้านเกี่ยวกับโครงการประชารัฐดังกล่าว

นายไพบูลย์ ไชยคำนวน กล่าวว่า หลังจากตนกับชาวบ้าน ได้มีทำหนังสือร้องเรียนผู้ใหญ่บ้านลาดสมบูรณ์ หมู่ 9 ไปยังศูนย์ดำรงธรรม อ.เมืองกาฬสินธุ์ เกี่ยวกับความไม่โปร่งใสของโครงการประชารัฐ 2 แสนบาท ที่นำมาสร้างศาลาประชาคม และยักยอกเงินกองกลางหมู่บ้านจำนวนประมาณ 5 พันบาท มาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2559 แต่ยังไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน จึงได้ร้องเรียนต่อสื่อมวลชน เพื่อขอความเป็นธรรมและร่วมตรวจสอบด้วย แต่ผลกลับเป็นว่าหลังจากที่สื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวออกไป คนใกล้ชิดนายบัญชา อุ่นมีศรี ผู้ใหญ่บ้าน คือนางสาวสายฝน นันเรียม อายุ 46 ปี ซึ่งเป็นน้องเมียผู้ใหญ่บ้าน กับนายสยุมภู อุ่นมีศรี อายุ 32 ซึ่งเป็นลูกชายผู้ใหญ่บ้าน ได้บุกรุกเข้าไปข่มขู่นักข่าวถึงให้ห้องทำงาน จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้ตนและชาวบ้านรู้สึกหวาดกลัว ไม่ได้รับความปลอดภัยในชีวิต เพราะขนาดนักข่าวยังถูกคุกคามข่มขู่ แล้วพวกเราที่เป็นเพียงชาวบ้านธรรมดา จะไม่ให้รู้สึกหวาดกลัวได้อย่างไร

ขณะที่นายเกสร สุวรรณราช อายุ 77 ปี อดีต ผู้ใหญ่บ้านลาดสมบูรณ์ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ชาวบ้านที่ร่วมลงชื่อร้องเรียนนายบัญชาฯผู้ใหญ่บ้าน จำนวน 100 คน จากจำนวนประชากรในหมู่บ้านประมาณ 200 คน จึงรู้สึกไม่ปลอดภัย โดยเฉพาะที่ได้ยินญาติผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่งพูดกรอกหูอยู่บ่อยๆ ตั้งแต่มีเรื่องร้องเรียนว่า “เอาปืนยิงกรอกปากมันเลย” ถึงกับกินไม่ได้นอนไม่หลับ อย่างไรก็ตาม เพื่อความสบายของชาวบ้าน ลูกหลาน ที่ต้องการเห็นความถูกต้องเที่ยงธรรมในหมู่บ้าน จึงได้พากันมาแจ้งความไว้เพื่อเป็นหลักฐาน

Advertisement

ทั้งนี้ ชาวบ้านยังเรียกร้องไปยังนายอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ ให้เร่งดำเนินการตรวจสอบสำนวนที่ชาวบ้านร้องเรียนโครงการประชารัฐ 2 แสนบาท ที่ผู้ใหญ่บ้านและคณะกรรมการหมู่บ้านลาดสมบูรณ์ หมู่ 9 จัดสร้างศาลาประชาคมในเร็ววันด้วย เพื่อสร้างความกระจ่างให้กับชาวบ้านที่ต้องการความเป็นธรรม และให้มีการเบิกจ่ายเงินจากภาษีประชาชนเกิดประโยชน์คุ้มค่า

ด้าน ร.ต.อ.สิทธิ์ ประเสริฐสังข์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ กล่าวว่า หลังจากสอบปากคำชาวบ้านที่มาร้องทุกข์ในเบื้องต้น ได้ทำการลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และให้ความเชื่อมั่นกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า จะอยู่เคียงข้างประชาชนอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ หากพบเบาะแสหรือเหตุใดส่อถูกทำร้ายคุกคาม ไม่ได้รับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน สามารถแจ้งสายตรวจตำบล หรือสายด่วน 191 ได้ ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ ในส่วนของการติดตามคดีนั้น เนื่องจากบุคคลที่ชาวบ้านระบุว่ามีพฤติกรรมข่มขู่ชาวบ้านนั้น เป็นบุคคลคนเดียวกันกับที่นักข่าวสมาคมนักข่าวมาแจ้งความไว้ จึงจะได้ประสานแนวทางการปฏิบัติงานกับ พ.ต.ต.สมทรง เวียงปฏิ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ เจ้าของคดี เพื่อดำเนินการตามคดีตามกฎหมายต่อไป

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image