“สำเนียงโคราชติดไปทางกลางๆ พูดเหมือนคนภาคกลาง”
เป็นคำยืนยันแข็งแรงที่ได้ยินจากเจ้าหน้าที่หญิง 1 ชาย 1 ของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พิมาย (อ. พิมาย จ. นครราชสีมา) เพื่ออธิบายที่ผมถามว่าคนพิมายพูดสำเนียงเดียวกับคนโคราชไหม?
ซึ่งเป็นคำถามเชิงทักทายโดยไม่คิดจะได้คำตอบ หรือถ้าจะมีคำตอบบ้างก็น่าจะไปในทางที่ว่าพิมายกับโคราชพูดสำเนียงเดียวกัน แต่ไม่ใช่อย่างนั้น
“สำเนียงพิมายไม่เหมือนสำเนียงโคราช” พวกเขาตั้งอกตั้งใจยืนยันมั่นคง “คนพิมายพูดสำเนียงพิมายห้วนๆ สั้นๆ ชอบพูดไปเด๊อไปด๊าคล้ายๆ ไปด้วยยังงั้นแหละ”
เหตุการณ์นี้มีขึ้นบริเวณหน้าซุ้มขายบัตรเข้าชมพิพิธภัณฑ์พิมาย ตอนสายวันอาทิตย์ 25 มิถุนายน 2560 ยังไม่มีนักท่องเที่ยว เพราะเช้าเกินไป จึงขอซื้อบัตรตามปกติ แต่เขาบอกว่าไม่ต้องซื้อบัตร เพราะเป็นผู้อาวุโส
ผมเถียงว่าอาวุโสอะไรกันเพิ่ง 30, 40 เอง
พวกเขาหัวเราะก๊ากใส่หน้าผม ลักษณะถากถางว่าไม่ยอมรับสภาพสังขารของตัวเอง ผมเลยชวนคุยเรื่องสำเนียงพูดของคนพิมายกับคนโคราช แล้วขอความรู้จากเขาในประเด็นสำเนียงเหล่านี้อีกนาน
จนท้ายสุดลืมเข้าพิพิธภัณฑ์ เพราะอิ่มใจได้รู้เพิ่มเติม ช่วยให้ความโง่ลดลงเล็กน้อยก็พอใจแล้ว
สำเนียงโคราช
สำเนียงโคราชเหมือนคนภาคกลาง ผมไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยจากปากของคนใน จ. นครราชสีมา ไม่ว่าชาวบ้านทั่วไปหรือนักวิชาการทางภาษาและวรรณกรรมไทย ในสถาบันการศึกษาทั้งในนครราชสีมาหรือที่อื่น
ถ้าเคยได้ยินบ้างก่อนหน้านี้ ผมก็คงเขียนไว้ในหนังสือโคราชของเรา (สำนักพิมพ์มติชน พิมพ์ครั้งแรก พ.ศ. 2558) เพราะสอดคล้องกับพยานหลักฐานที่พบ แล้วเขียนไว้ในเล่มโดยสรุปดังนี้
สำเนียงโคราชมีรากเหง้ามาจากสำเนียงหลวงอยุธยา ที่พูดเหน่อ (แบบลาวหรือแบบสุพรรณ) และเพลงโคราชก็มีฉันทลักษณ์เดียวกับเพลงชาวบ้านลุ่มน้ำเจ้าพระยา (เช่น เพลงฉ่อย)
ทั้งนี้มีเหตุจากรัฐอยุธยาสถาปนาเมืองนครราชสีมา ตั้งแต่เรือน พ.ศ. 2000 (ก่อนยุคพระนารายณ์หลายร้อยปี) แล้วโยกย้ายขุนนางข้าราชการและไพร่พลขึ้นมาตั้งหลักแหล่งถาวร ผสมปนเปกับคนพื้นเมืองพูดภาษาตระกูลมอญ-เขมรเป็นสำคัญ ยังมีช่องทักท้วงถกเถียงกันได้อีกมาก ผมแค่รวบรวมจากนักปราชญ์ราชบัณฑิตกับนักวิชาการที่ค้นคว้าไว้แล้ว มาทำให้ง่ายๆ แจกจ่ายแบ่งปันกันกว้างๆ แค่นั้น