กรมส่งเสริมการเกษตร ชูยุวเกษตร สร้างต้นแบบการทำอาชีพเกษตรกรรม

กรมส่งเสริมการเกษตร ชูยุวเกษตรกรไทย ต้นแบบการเตรียมพร้อมเข้าสู่การทำอาชีพเกษตรกรรมที่ดำเนินงานมาเป็นเวลาถึง 65 ปี ย้ำชัดตลอดระยะเวลาที่จัดตั้งกรมมาเป็นเวลา 50 ปี กรมได้ตระหนักและยังคงให้ความสำคัญกับงานการส่งเสริมยุวเกษตรกรมาอย่างต่อเนื่อง

นายสงกรานต์ ภักดีคง รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า การส่งเสริมยุวเกษตรกรไทยเริ่มขึ้นเมื่อปี 2495 โดยผู้เชี่ยวชาญองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ ที่ได้เสนอโครงการให้มีการฝึกอบรมและฝึกปฏิบัติสำหรับเกษตรกรผู้เป็นหัวหน้าครอบครัวและเกษตรวัยรุ่น ต่อมาในปี 2496 ได้มีการดำเนินโครงการทดลองส่งเสริมการปลูกพืชผักสวนครัว และเลี้ยงสัตว์แก่เยาวชนที่โรงเรียนพรหมานุเคราะห์ จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นครั้งแรก และมีการจัดตั้ง 4H Club ขึ้นในประเทศไทย พร้อมกับนำรูปแบบและแนวทางการดำเนินงานมาจากประเทศสหรัฐอเมริกา และได้มีการมอบหมายให้กระทรวงเกษตรฯเป็นหน่วยงานรับผิดชอบ ในขณะนั้นการส่งเสริมและจัดตั้งหน่วยยุวกสิกร จนกระทั่งต่อมาในปี 2510 ได้มีการจัดตั้งกรมส่งเสริมการเกษตรขึ้นเป็นอีกหน่วยงานหนึ่งในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และได้โอนถ่ายงานส่งเสริมหน่วยยุวกสิกรมาเป็นหนึ่งในภารกิจของกรม

ต่อมาในปี 2518 จึงเปลี่ยนชื่อเป็น “กลุ่มยุวเกษตร” เพื่อให้สอดคล้องกับงานของกรมส่งเสริมการเกษตร และในปี 2560 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินงานส่งเสริมและพัฒนายุวเกษตรกรครบ 65 ปี โดยกรมส่งเสริมการเกษตรได้ส่งเสริมให้มีการรวมตัวกันของเด็กและเยาวชนที่มีอายุ 10-25 ปี ที่มีความสนใจด้านการเกษตรจัดตั้งเป็น “กลุ่มยุวเกษตรกร” เพื่อพัฒนาความรู้และทักษะอาชีพการเกษตร ทักษะการดำเนินชีวิตในสังคม โดยเน้นวิธีการเรียนรู้จากประสบการณ์และปฏิบัติจริง (Learning by doing) ให้ยุวเกษตรกรที่มีความสามารถและมีความพร้อมในการสืบทอดอาชีพการเกษตร และมีการจัดงานชุมนุมยุวเกษตรกรทั้งในระดับจังหวัด ระดับเขต และระดับประเทศ เพื่อเปิดโอกาสให้สมาชิกกลุ่มยุวเกษตรกรและที่ปรึกษากลุ่มยุวเกษตรกรได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้การดำเนินงานของกลุ่มยุวเกษตรกรกลุ่มอื่นๆ

Advertisement

สำหรับโครงการจัดตั้งกลุ่มยุวเกษตรกรถือว่ามีความสำคัญในการพัฒนาภาคการเกษตรของประเทศไทยเราเป็นอย่างมาก เพราะถือเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับเยาวชนที่สืบทอดงานทางด้านการเกษตรและปลุกจิตสำนึกการทำการเกษตรที่ดีตั้งแต่วัยเยาว์ เนื่องจากการจะสร้างบุคลากรไม่ว่าจะอยู่ในสาขาอาชีพใดก็ตามการบ่มเพาะและปลูกฝังตั้งแต่เด็กมีส่วนช่วยให้บุคลากรเหล่านี้สามารถเติบโตขึ้นมาได้ภายใต้จิตสำนึกที่ดี โดยเด็กจะได้ทั้งเรื่องความรู้ที่นำมาใช้ได้ในชีวิตประจำวัน และในการประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองทุกด้าน ทั้งภาคการผลิต แปรรูป การรวมกลุ่มเป็นสหกรณ์ ซึ่งการเริ่มต้นตรงนี้จะนำมาซึ่งการพัฒนาในอนาคตได้จริง

“อย่างไรก็ตาม ก้าวต่อไปของการพัฒนายุวเกษตรกร กรมส่งเสริมการเกษตรได้มีการวางแผนการพัฒนาให้เป็นไปตามสภาพสิ่งแวดล้อม สภาพทางสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปอยู่ตลอดเวลา ทั้งนี้ ก็เพื่อให้การดำเนินงานมีความสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันให้มากที่สุด โดยเฉพาะในยุปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดในเรื่องของสภาพแวดล้อม เทคโนโลยี นวัตกรรมที่เข้ามามีบทบาทในการภาคเกษตรกรรมเป็นอย่างมาก และภายใต้การทำเกษตรที่ต้องอาศัยธรรมชาติ เราก็คงนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเพิ่มผลผลิตสินค้าเกษตรเพื่อใช้ทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่ในมากขึ้น รวมทั้งทดแทนแรงงานด้วย” นายสงกรานต์ กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image