ปปป.ลุยตรวจทุจริต”เงินทอน”บูรณะวัดต่อ460แห่ง พบยอดเสียหาย700ล้าน

เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน พ.ต.อ.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รองผู้บังคับการ(รองผบก.)กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ(บก.ปปป.) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(บช.ก.) เปิดเผยความคืบหน้าการตรวจสอบการทุจริตงบประมาณบูรณะและปฎิสังขรณ์วัดเพื่อสนันสนุนให้วัดทำโครงการต่างๆภายหลังจาก พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.)เข้าพบ พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผบก.ปปป.เพื่อแจ้งความร้องทุกข์เพื่อให้ตรวจสอบและดำเนินคดีกับบุคคลที่เกี่ยวข้องว่า ปปป.ลงพื้นที่ตรวจสอบเบื้องต้นพบเหลืออีกประมาณ 460 วัด จะต้องแบ่งงานกันตรวจสอบโดยจะเน้นในปี 2557 เป็นหลักเพราะบุคคลที่กระทำความผิดเกษียณอายุราชการและพบว่ามีการทุจริตเงินประมาณ 700 ล้านบาทในปีดังกล่าว

แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ขณะนี้ยังรอตรวจบัญชีงบประมาณต่างๆรวมถึงเอกสารตัวจริงที่มีการเบิกจ่ายงบฯว่าอยู่ครบหรือเปล่า สำหรับคดีดังกล่าวพบว่ามีการทุจริตมีผู้ร่วมกระทำความผิด 8 คน ทั้งอดีตข้าราชการ ข้าราชการ และบุคคลทั่วไปอีก 4 คน โดยสำนวนการสอบสวนส่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ตามมาตรา 83 ในกรณีความผิดใดเกิดขึ้นโดยการกระทำของบุคคลตั้งแต่สองคนขึ้นไป ผู้ที่ได้ร่วมกระทำความผิดด้วยกันนั้นเป็นตัวการ ต้องระวางโทษตามกฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น มาตรา 147 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่สองพัน บาทถึงสี่หมื่นบาท และ มาตรา 157 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่ทั้งนี้ทาง ป.ป.ช.ยังไม่ได้มีการชี้มูลลงมาว่าใครกระทำความผิดบ้างและจะดำเนินการอย่างไรต่อกับผู้ร่วมกระทำความผิดทั้ง 8 คน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image