การออกโรงของ นายวิษณุ เครืองาม และ นายพรเพชร วิชิตชลชัย และ นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย
สำคัญ
เพราะสิ่งที่ทั้ง 3 คนออกมาเน้นย้ำอย่างหนักแน่นและจริงจังล้วนเป็นเรื่องเดียวกัน
นั่นก็คือ เรื่อง “กฎหมายลูก”
ความหมายก็หมายความว่า ที่วิตกกันว่าอาจจะถูก”คว่ำ” และส่งผลให้โรดแมป “การเลือกตั้ง” ต้องเลื่อน
เป็นไปไม่ได้
”เป็นโรดแมปที่รัฐธรรมนูญกำหนด ถ้าไม่ทำตามนั้นก็ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ”
เป็นการยืนยันจาก นายวิษณุ เครืองาม
ความสำคัญของเรื่องนี้อยู่ที่การออกมาแถลงในเรื่องเดียวกันในวันเดียวกันของบุคคล 3 คน
นายวิษณุ เครืองาม นั่นแน่ละ
เพราะเป็น “มือกฎหมาย” เป็นรองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลงานด้าน “กฎหมาย”
ขณะเดียวกัน อีก 2 คนก็สำคัญ
เพราะ นายพรเพชร วิชิตชลชัย เป็นประธานสนช. เพราะ นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย เป็นรองประธานสนช.
เป็นคนรับลูกต่อจาก นายมีชัย ฤชุพันธุ์
เหมือนกับทั้ง 3 คนยก”รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560″มาเป็นเครื่องค้ำประกัน
แต่ถามว่าคน”เชื่อ”หรือไม่
ต้องย้อนกลับไปยังสัจจะจากความเป็นจริงของ “คำพูด” อันสัมพันธ์กับความเป็นจริงในทาง “การเมือง”
1 ก่อนพูดเราเป็น”นาย” แต่หลังพูด “คำพูด”เป็นนาย
ขณะเดียวกัน 1 ซึ่งพิสูจน์มาแล้วไม่ว่ายุค”เลือกตั้ง”หรือยุค”รัฐประหาร”เมื่อท่านพูดคนจะฟัง เมื่อท่านลงมือทำคนจะเชื่อ
อย่าตำหนิชาวบ้านเลยที่ยังไม่ได้ให้ความเชื่อมั่นจากคำพูดแม้ว่าจะเป็นรองนายกรัฐมนตรี แม้ว่าจะเป็นประธานสนช. แม้จะเป็นรองประธานสนช.
คำตอบสุดท้ายอยู่ที่”การปฏิบัติ”ซึ่ง”เป็นจริง”