อะไหล่ การเมือง ขนาดกลาง ‘หางเครื่อง’ ให้ ‘พรรคทหาร’

คล้ายกับว่า การปฏิเสธจาก พล.อ.ธวัชชัย สมุทรสาคร ที่ว่า “ผมไม่อยากเล่นการเมือง” จะทำให้ความพยายามจาก 2 หนุ่มใหญ่ ซึ่งลาออกจาก สปท.พร้อมกัน

หยุดชะงัก

อาจเป็นอย่างนั้น แต่หากติดตามการเคลื่อนไหวของทั้ง พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล และนายสมพงษ์ สระกวี อย่างต่อเนื่อง

ก็จะค่อยๆ เข้าใจ

Advertisement

เข้าใจว่าเหตุปัจจัยอันใดทำให้ พล.อ.ธวัชชัย สมุทรสาคร ต้องพูดออกมาอย่างนั้น ทำราวกับไม่มีเยื่อใยเลยแม้แต่น้อย

นี่ย่อมเป็น “ลับ ลวง พราง”

เชื่อได้เลยว่า 3 หนุ่ม 3 มุม ไม่ว่า พล.อ.ธวัชชัย สมุทรสาคร ไม่ว่า พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล ไม่ว่านายสมพงษ์ สระกวี รู้กันอยู่อย่างดีตั้งแต่ก่อนอำลาจาก สปท.

Advertisement

แยกกันเดิน รวมกันตี

จับความจาก นายสมพงษ์ สระกวี เป็นประสานเข้ากับ พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล เหมือนกับกำลังทั้ง 2 จะตีโอบมาจากภายนอก

1 พุ่งเป้าไปยัง “พรรคมาตุภูมิ”

1 พุ่งเป้าไปยัง “พรรคทวงคืนผืนป่าแห่งประเทศไทย”

เป้าหมายก็คือ ร่วมกับพรรคขนาดเล็กเพื่อทำให้พรรคขนาดเล็กพัฒนาไปสู่พรรคขนาดกลางระนาบเดียวกันกับพรรคชาติไทยพัฒนา และพรรคภูมิใจไทย

ทั้งนี้ ย่อมรวมถึงพรรคชาติพัฒนาด้วย

“ไม่ใช่พรรคตัวแทนทหารแต่มีทหารบางส่วนมาร่วมด้วยเท่านั้น” นายสมพงษ์ สระกวี กล่าว “และหากทหารตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาจริงๆ พรรคเล็กก็พร้อมเป็นพันธมิตรกับพรรคทหาร”

ชัดหรือไม่

ท่าทีของ พล.อ.ธวัชชัย สมุทรสาคร จึงเป็นท่าทีอย่างเดียวกันกับท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นั่นก็คือ “กั๊ก”

กระสวนของ พล.อ.ธวัชชัย สมุทรสาคร พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล และนายสมพงษ์ สระกวี ก็เหมือนที่ 1 ใน 3 คนนี้หลุดปาก

“อย่างน้อยก็อยากให้ได้เท่ากับพรรคภูมิใจไทย”

นี่ย่อมเป็น “โมเดล” ทางการเมืองเหมือนกับยุครัฐธรรมนูญ พ.ศ.2521 ในยุค พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ ต่อเนื่องมายังยุค พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ กระทั่งถึงยุค พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ

อย่างที่เรียกกันว่า “ประชาธิปไตยครึ่งใบ”

นี่คือความคิดโดยพื้นฐานอย่างที่สัมผัสผ่าน พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคพลังชลและรวมถึงพรรคชาติพัฒนา

เพราะรู้อยู่ว่าไม่น่าจะต่อกรกับ พรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ ได้

อย่างน้อยที่สุดก็คือ ทำอย่างไรให้พรรคของตนเองมีปริมาณ ส.ส.เหนือกว่า “พรรคต่ำสิบ” หากทะยานไปยัง 20 หรือ 30 คน ก็ยอดเยี่ยม

ไม่ว่าพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าพรรคประชาธิปัตย์ ก็มองเห็นความหมาย

ขณะเดียวกัน ความหมายที่สำคัญอย่างที่สุดก็คือ ความหมายที่จะไปเสริมความแข็งแกร่งให้กับพรรคทหาร อันได้แก่ 250 ส.ว.

นั่นหมายถึง โอกาสได้เข้าร่วมรัฐบาล

แม้ว่าพัฒนาการทางการเมืองของไทยได้ก้าวพ้นจากยุครัฐธรรมนูญ พ.ศ.2521 มาแล้วโดยพลานุภาพแห่งรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2540

แต่นี่คือ ยุทธศาสตร์ “ใหม่” หลัง “รัฐประหาร”

รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 คือ ข้อไขให้แจ่มชัด เมื่อประสานเข้ากับ “กฎหมายลูก” ที่กำลังยำใหญ่กันอยู่ใน กรธ. และ สนช.ก็ชัดเจน

และการเคลื่อนไหวเหล่านี้คือเครื่องยืนยัน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image