เมื่อเวลา15.00น. วันที่ 4 กรกฎาคม ที่ห้องประชุมกองกำกับการตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย พ.ต.อ.พัลลภ สุริยกุล ณ อยุธยา ผกก.ตม.หนองคาย เรียกประชุมผู้ประกอบการ และผู้ให้บริการขับรถแท็กซี่โดยสารบริเวณหน้าด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 1 อ.เมืองหนองคาย มาชี้แจงทำความเข้าใจ ทำข้อตกลงในการปฏิบัติตนร่วมกันให้ถูกต้องตามระเบียบ
พ.ต.อ.พัลลภ กล่าวว่า เมื่อเร็ว ๆนี้มีประเด็นปัญหาที่ด่านชายแดนบางแห่งในต่างจังหวัด ไม่ใช่ที่จังหวัดหนองคาย มีแท็กซี่ลักลอบพาบุคคลออกนอกประเทศโดยผิดกฎหมาย ส่วนจังหวัดหนองคาย มีแท็กซี่ให้บริการรับส่งประมาณ 200-300 คัน ก่อนหน้านี้ตรวจคนเข้าเมืองได้แจกสมุดประจำตัวคนขับแท็กซี่พร้อมรถยนต์ที่ใช้บริการเป็นเอกสารสำคัญประจำแต่ละคน โดยมีการตรวจสอบอย่างเข้มงวดอยู่แล้ว แต่หลังจากนี้จะเพิ่มความเข้มข้นขึ้นไปอีก โดยให้ทุกคนมาขึ้นทะเบียนกับ ตม.หนองคายแล้วรับหนังสือเล่มประจำตัวสีชมพู ใช้ได้ 3 เดือน เริ่มใช้ในวันที่ 7 กรกฎาคม 2660 ระหว่างนี้หากคนขับแท็กซี่ได้หนังสือเล่มประจำตัวไปแล้วไม่มีการเคลื่อนไหวของการบริการ ไม่มีตราประทับ หรือ พบการสวมรอยให้บุคคลอื่นจะถูกยกเลิกการอนุญาตพร้อมขึ้นแบล็คลิสต์ หลังจากครบ 3 เดือน จะเปลี่ยนหนังสือเล่มประจำตัวใหม่ให้ เพื่อควบคุมคนขับแท็กซี่ให้ทำตามขั้นตอน เป็นระเบียบ และไม่ทำผิดกฎหมาย
“ที่สำคัญ ผู้โดยสารทุกคนต้องลงจากรถมายื่นเอกสารการเดินทางเข้าออกประเทศด้วยตนเองทุกครั้ง หากคนขับแท็กซี่ลงมายื่นเอกสารให้แทนจะถูกตรวจสอบอย่างละเอียด เพราะสุ่มเสี่ยงต่อการลักลอบนำพาบุคคลที่อาจเป็นผู้กระทำความผิด มีหมายจับ บุคคลที่ทางการต้องการตัว หลบหนีออกนอกประเทศได้ รวมถึงหากพบการลักลอบพาคนต่างด้าวออกนอกประเทศจะมีโทษปรับ 8,000 บาทต่อคนต่างด้าว 1 คน และถูกห้ามขับแท็กซี่หน้าด่านสะพานอีกต่อไป” พ.ต.อ.พัลลภ กล่าว
