ศธ.ตีปี๊บ!!ประกาศใช้เกณฑ์วิทยฐานะใหม่ สานต่อพระราชกระแส’ในหลวงร.9′ ครูสอนดีต้องได้รับการตอบแทน  

เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม ที่หอประชุมคุรุสภา นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เป็นประธาน แถลงข่าวการปรับหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินวิทยฐานะและการพัฒนาข้าราชการครูแนวใหม่ “จากพระราชกระแสฯ… สู่การพัฒนาครูทั้งระบบ” โดยมีนายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ ปลัด ศธ. นายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ผู้บริหาร และข้าราชการ ศธ.เข้าร่วม โดย นพ.ธีระเกียรติปาฐกถาเรื่อง “วิทยฐานะและการพัฒนาข้าราชการครูทั้งระบบ” ตอนหนึ่งว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงมีความห่วงใยต่อคุณภาพการศึกษาของชาติ และทรงมีพระราชหัตถเลขา เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2555 ถึงการเลื่อนวิทยฐานะ ว่า ครูมุ่งเขียนงานวิทยานิพนธ์ เขียนตำราส่งผู้บริหาร เพื่อให้ได้ตำแหน่งและเงินเดือนสูงขึ้น ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงมีพระราชดำรัสว่า ระบบนี้ไม่ยุติธรรม ต้องเปลี่ยน พระองค์ทรงเน้นว่า ครูที่สอนดีทั้งปริมาณและคุณภาพ ควรจะได้รับการตอบแทน การปรับหลักเกณฑ์ประเมินวิทยฐานะครั้งนี้ ถือเป็นการปฏิรูปการศึกษาส่วนของพัฒนาครูครั้งใหญ่ มั่นใจว่าหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินวิทยฐานะใหม่จะสามารถทำให้ครูอยู่ในพื้นที่ ครูที่ตั้งใจสอน ครูที่อยู่ในห้องเรียนจะได้รับการตอบแทนที่มีความเหมาะสมเป็นธรรม

นพ.ธีระเกียรติกล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามทราบว่าหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินวิทยฐานะแบบใหม่นี้ยังมีครูจำนวนหนึ่งไม่เห็นด้วย และขอกลับไปใช้หลักเกณฑ์เดิม ซึ่งทางสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ได้จัดทำบทเฉพาะกาล กำหนดรายละเอียดการประเมินวิทยฐานะกรณีผู้ที่บรรจุก่อนวันที่ 5 กรกฎาคม 2560 สามารถยื่นขอมีหรือเลื่อนวิทยฐานะตามแบบเดิมได้ 1 ครั้ง ภายใน 1 ปี ส่วนผู้ที่บรรจุหลังวันที่ 5 กรกฎาคม 2560 ให้ยื่นขอตามหลักเกณฑ์ใหม่เท่านั้น ขณะที่ยังมีอีกกลุ่มหนึ่งจะขอกลับไปใช้เกณฑ์เดิมตลอดไป โดยอ้างว่าเป็นสิทธิที่พึงจะได้รับ ตรงนี้ต้องชี้แจงให้เข้าใจ ว่า วิทยฐานะเป็นเรื่องของค่าตอบแทน ไม่ได้เป็นสิทธิ ดังนั้นจึงต้องมีมาตรฐาน ซึ่งหากมาตรฐานที่มีอยู่เดิมไม่ดีก็ต้องมีการทบทวน และการปรับหลักเกณฑ์วิทยฐานะครั้งนี้ก็เป็นการทบทวนของกลุ่มครูและบุคลากรทางการศึกษาด้วยกันเอง ซึ่งก็ต้องยอมรับ นอกจากนี้ยังถือเป็นการเริ่มต้นให้ครูได้เลือกอบรมพัฒนาครูโดยมีสถาบันคุรุพัฒนา เป็นหน่วยประสานเชื่อมโยงหน่วยงานผู้จัดหลักสูตรอบรมพัฒนาครู ซึ่งจะต้องมีความเชื่อมโยงกับหลักเกณฑ์วิทยฐานะ โดย สพฐ.ได้จัดสรรงบประมาณให้ครูคนละ 1 หมื่นบาท/คน/ปี เพื่อให้ครูได้เลือกหลักสูตรที่จะอบรมได้ตามความต้องการ ซึ่งครูที่สนใจสามารถประสานขอรับงบเพื่อเลือกหลักสูตรอบรมได้ที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image