ที่มา | หน้าประชาชื่น มติชนรายวัน |
---|---|
ผู้เขียน | ธีรภัทร เจริญสุข |
เผยแพร่ |
ช่วงนี้ใครเดินตลาดหรือไซต์ก่อสร้างของผู้รับเหมาเจ้าที่ไม่ใหญ่นัก อาจจะพบว่าแผงค้าหรืองานก่อสร้างถูกทิ้งร้างไปหลายส่วน นับตั้งแต่วันที่ 23 กรกฎาคม ที่พระราชกำหนดบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวออกมาบังคับใช้ตามมติคณะรัฐมนตรี ซึ่งตั้งโทษปรับไว้สูงและเปิดช่องให้เจ้าหน้าที่จับกุมได้อย่างรวดเร็วและรุนแรง ทำให้ทั้งผู้จ้างและลูกจ้างต่างด้าวหวาดกลัว
ส่วนผู้จ้างก็เลิกจ้างส่วนลูกจ้างก็ลาออกกลับบ้านหลั่งไหลกันไปวันละหลายพันคน ด่านชายแดนทุกสารทิศคลาคล่ำไปหมด
แรงงานเขมรไซต์ก่อสร้างหน้าปากซอยหมู่บ้านของผู้เขียน จับกลุ่มกันพึมพำเรื่องกวาดจับแรงงาน คุยกับแรงงานไทย เป็นไทยบ้างเขมรบ้างผสมๆ ยืนรอลูกชิ้นทอดรถเข็นไทยใหญ่ หูไพล่ได้ยินมาแล้วได้แต่ถอนใจ เพราะตอนนี้ไม่ใช่แค่เรื่องถูกกฎหมายไม่ถูกกฎหมาย เป็นเรื่องที่พวกเขาไม่มั่นใจในอนาคตของตัวเองที่ไม่แน่นอน ต่อให้มาถูกกฎหมายมีใบครบถ้วน วันเลวคืนร้าย ไทยอาจจะออกกฎหมายใหม่มาบอกว่าผิดกฎหมายก็ได้ ขึ้นค่าปรับจับเมื่อไรก็ได้ เพราะไม่มีความแน่นอนในนโยบายให้เห็น
แล้วข่าวจำพวกนี้ไปไวเหมือนไฟลามทุ่ง ทุกคนมีสมาร์ทโฟนจีนราคาไม่แพง มีซิมเน็ตมือถือ ไซต์ก่อสร้างยังมีไวไฟให้ใช้ ข่าวจับที่หนึ่งก็ส่งไปหาคนงานอีกที่หนึ่งได้ทันที คนผวาไหวตัวทันก็หนีกลับไปตั้งหลักก่อนไว้อะไรๆ ชัดเจนค่อยกลับมาใหม่ยังทันหรือถ้ากลับไปแล้วมีงานรอสบายใจที่บ้านเกิดก็อาจไม่กลับมา
คนที่ประสบผลเสียอย่างหนักที่สุดในตอนนี้เห็นจะไม่พ้นธุรกิจ SME ไทยที่ใช้แรงงานต่างด้าว ไม่ว่าจะถูกกฎหมายหรือไม่ถูกกฎหมายก็ตาม ที่ต้องขาดแคลนแรงงานอย่างฉับพลันทันด่วน กำลังซื้อกำลังบริโภคในตลาดก็หดหายตกวูบฉับพลัน บางตลาดถึงกับเข้าขั้นว่างโหวงให้เห็นน่าตกใจ
ตามสถิติประชากรไทยที่นับวันจะลดถอยลงในวัยชรา อย่าว่าแต่คนไทยไม่ทำงานหนัก งานสกปรก งานอันตราย ต่อให้คนไทยที่ว่างงานทุกคนมาทำงานรายได้ต่ำไร้ทักษะ แรงงานจะใช้ยังไงก็ไม่พอ
จากสถิติพบว่าแรงงานไทยว่างงานอยู่ประมาณ 2.64 แสนคนแต่เราใช้แรงงานต่างด้าวเฉพาะที่ถูกกฎหมายถึง 1.3 ล้านคน ไม่นับว่าแรงงานเถื่อนอีกตั้งไม่รู้เท่าไร โดยที่ตอนนี้เทคโนโลยีก็ยังสร้างหุ่นยนต์ใช้เองไม่ได้ ทางที่ดีที่สุดคือยอมรับบุคลากรชั้นดีจากเพื่อนบ้านเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของไทยแบบที่เราทำสำเร็จมาแล้วทั้งจีน แขก ญวน อยู่ใต้ร่มพระบรมโพธิสมภารถ้วนหน้ากัน
ที่ลงทะเบียนถูกกฎหมายอยู่ไทยห้าปี ให้มีสิทธิต่างๆ อยู่ครบสิบปีมีสิทธิซื้อทรัพย์สิน ถึงขั้นหนึ่งก็แปลงสัญชาติเป็นคนไทยได้ เงินทองที่พวกเขาหามาเมื่อเห็นอนาคตอยู่ไทย พาครอบครัวมาอยู่ เรียนภาษาไทยสุดท้ายก็เป็นคนไทยไปไม่ต่างจากแรงงานอพยพรุ่นก่อนๆ ทั้งกำลังกายกำลังใจแรงงานกำลังซื้อผู้บริโภคตั้งเท่าไร เม็ดเงินหมุนเวียนในไทยไม่ตกหล่นหายลับ
เหลียวดูถึงหน้าอากงอาม่าอาแบ๋ะหยอของหลายๆ ท่านก็เชิดหน้าชูตาอยู่ในสังคมไทยได้เพราะนโยบายรัฐไทยเปิดกว้างทั้งนั้น
ถ้าแรงงานมีปัญหา ซึ่งไม่ว่าแรงงานไทยหรือชาติอื่นก็มีปัญหาทั้งนั้นตามประสาคนเหมือนกัน ค่อยพิจารณาตามคดีจริงเป็นรายๆ ไป
ท่านเสนาบดีพระคลังผู้กุมเศรษฐกิจปากก็พูดถึงเรื่องวิกฤตวัยชราและอนาคตของคนไทย แต่ไม่ยักคุยวางแผนระยะยาวร่วมกับหน่วยงานอื่นเพื่อแก้ไขปัญหา ที่ยิงปืนนัดเดียวจะได้นกทั้งฝูงบ้าง
ฝากเรียนถึงท่านผู้มีอำนาจในบ้านเมือง ถึงเดือนหน้าเข้าสิงหาคมไปไหว้สารทจีนที่ฮวงซุ้ยบรรพชนเมื่อไร กระตุกใจคิดเรื่องนี้สักหน่อยก็จะเป็นพระคุณ