นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมา กรมฯได้ยื่นอุทธรณ์เพื่อชี้แจงประเด็นต่างๆตามคำสั่งระงับการประมูลและการทำสัญญาซื้อขายข้าวต่อศาลปกครอง กรณีบริษัท ที พี เค เอทานอล จำกัด ยืนฟ้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้มีการระงับและคุ้มครองฉุกเฉิน โดยชี้แจงถึงความเสียหายที่จะเกิดเป็นวงกว้าง และไม่สามารถประเมินความเสียหายต่อภาครัฐและเอกชนผู้ชนะประมูลข้าวที่ไม่สามารถทำสัญญาได้ทั้ง16 ราย ทั้งๆที่รัฐควรจะได้รับเงินระบายข้าวกว่า 10,000 ล้านบาท เพื่อคืนเงินกู้ที่ใช้ในโครงการจำนำข้าวต้องเลื่อนออกไป
นอกจากนี้ ต้องแบกรับความเสียหายทันทีจากภาระค่าเก็บรักษา เดือนละ 163 ล้านบาท หรือวันละ 5 ล้านบาท) จากสต็อกข้าวกลุ่ม 2 ปริมาณ 2.07 ล้านตัน ที่ระงับการขายอีก130 ล้านบาท/เดือน สำหรับข้าวกลุ่ม 3 ที่ไม่ให้นำออกมาขายใหม่ ปริมาณ 0.53 ล้านตัน หรือ 33 ล้านบาท/เดือน รวมทั้ง รายได้ที่รัฐต้องเสียไปจากการขายได้แล้ว11,376 ล้านบาท รวมถึงการเยียวยาให้เอกชนหากบริษัทผู้ฟ้องชนะ และอาจกระทบต่อราคาใหม่ที่กำลังออกสู่ตลาดในอีก 2 เดือนข้างหน้า เพราะกลับมากกังวลเรื่องสต็อกข้าวเก่าบวกสต็อกข้าวใหม่ ภาพรวมจึงกระทบต่อตลาดข้าวในวงกว้าง รวมถึง เสียหายต่อแผนระบายข้าวเดือนกรกฎาคมนี้ต้องชะลอออกไป
สำหรับสถานการณ์ส่งออกข้าว ยังมีความต้องการต่อเนื่อง เช่น ฟิลิปปินส์จะเปิดประมูลวันที่ 25 กรกฎาคมนี้ วันที่ 6-7 กรกฎาคมหารือกับบังคลาเทศขายข้าวนึ่ง 5% และ 100% ปริมาณ 2 แสนตัน สัปดาห์หน้าเจรจากับศรีลังกาที่สนใจซื้อข้าวไทย 2 แสนตัน จากความต้องการ 1 ล้านตัน รวมถึงอิรัก จีน ก็อยู่ระหว่างของการส่งมอบ ซึ่งปัญหาของการส่งออก คือ ปัญหาจาก การบังคับใช้ พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานแรงงานต่างด้าว พ.ศ. 2560 ทำให้แรงงานหายไป รวมถึงสภาพอากาศที่ฝนตกหนัก ทำให้การขนส่งข้าวขึ้นเรือมีความล่าช้าออกไป และปิดระวางไม่ได้ ส่วนกระทบเป้าส่งออกคงต้องรอดูสถานการณ์อีกครั้ง
