ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) ได้มีการคัดเลือกผู้จะมาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการไทยพีบีเอสคนใหม่เมื่อเช้านี้ (6 ก.ค.) โดยมีผู้สมัครที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายมา 2 คนคือ นายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เนชั่นบรอดคาสติ้ง คอเปอร์เรชั่น จำกัด (มหาชน) และ รศ.วิลาสินี พิพิธกุล อดีตรองผู้อำนวยการไทยพีบีเอส ซึ่งผลปรากฏว่า รศ.วิลาสินีได้รับคัดเลือกด้วยคะแนน 2 ใน 3 ของผู้เข้าร่วมประชุม อย่างไรก็ตามมีรายงานข่าวกล่าวว่าในการคัดเลือกครั้งนี้มีกรรมการนโยบาย 2 ที่เข้าร่วมประชุม แต่ไม่ร่วมคัดเลือก โดยให้เหตุผลว่าการสรรหาไม่ถูกต้อง
เกี่ยวกับเรื่องนี้ รศ.ดร.ณรงค์ เพ็ชรประเสริฐ ประธานกรรมการธรรมาภิบาลและความรับผิดชอบต่อสังคม ส.ส.ท. ให้สัมภาษณ์ ‘มติชนออนไลน์’ ว่า เป็น 1 ใน 2 คนที่ว่า โดยมีเหตุผล 3 ประการ คือ จากการสอบถามนายแก้วสรร อติโพธิ ซึ่งเป็นกรรมการธรรมาภิบาล เรื่องกระบวนการสรรหา ก็ได้รับแจ้งว่ากระบวนการน่าจะไม่ถูกต้อง เพราะแทนที่จะใช้วิธีพิจารณาคุณสมบัติผู้สมัครแต่ละคนว่าผ่านเกณฑ์หรือไม่ แล้วส่งให้คณะกรรมการนโยบายคัดเลือกอีกครั้ง กลับใช้วิธีให้คณะกรรมการแต่ละคนเลือกผู้สมัครได้ 2 คน แล้วเลือก 2 คนที่คะแนนสูงสุดเข้ารอบ ซึ่งอาจเข้าข่ายว่าเป็นการตัดสิทธิคนอื่นๆ ซึ่งเรื่องนี้นายณัฐวัฒน์ อริย์ธัชโภคิน กรรมการธรรมาภิบาลอีกคนซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านกฎหมายก็เห็นด้วย ขณะเดียวกันนายพิพัทธ์ ชนะสงคราม กรรมการนโยบายอีกคนซึ่งไม่เข้าร่วมการคัดเลือกในวันนี้เช่นกัน ก็มีความเห็นตรงกันกับตนว่าการคัดผู้สมัครมาแค่ 2 คนน่าจะน้อยเกินไป และกรรมการสรรหาควรมีรายละเอียดให้คณะกรรมการนโยบายมากกว่านี้
รศ.ดร.ณรงค์ยังบอกอีกว่า ยิ่งไปกว่านั้นผู้สมัครทั้งคู่ยังมีความเสี่ยงเรื่องจริยธรรม ด้วยตามข้อกำหนดของ ส.ส.ท.ระบุไว้ว่า ผู้บริหารจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับอย่างเคร่งครัด แต่นายอดิศักดิ์ยังมีคดีที่ต้องพิสูจน์ในศาล ขณะ รศ.วิลาสินีก็มีเรื่องที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) สั่งให้ตรวจสอบการซื้อหุ้นกู้ของ ส.ส.ท.ว่าทำผิดระเบียบการจ่ายเงินที่ รศ.วิลาสินีร่วมลงนามเช่นกัน
