คนเมืองไม่กิน ทำงูแพร่พันธุ์รวดเร็ว บุกกรุงอื้อ หมอแนะน้ำกระเพื่อมไร้สาเหตุให้รีบราดยาล้างส้วมกดชักโครกทิ้งทันที กันงูโผล่ฉก!!
กรณีที่เกิดเหตุงูเหลือมขนาดใหญ่เลื้อยเข้าไปอยู่ในชักโครก ภายในบ้านหลังหนึ่งในย่านถนนราชพฤกษ์-จรัญสนิทวงศ์ 1 ถนนปากน้ำ กระโจมทอง แขวงคลองชักรพ เขตตลิ่งชัน โดยงูได้กัดเข้าไปที่บริเวณก้นของเจ้าของบ้าน แผลเป็นรอยเขี้ยวขนาดประมาณ 1 เซนติเมตร ทั้งด้านบนและด้านล่าง รวม 12 เขี้ยว เป็นคำถามว่า บ้านในหมูบ้านจัดสรร ราคาหลังละเกือบ 10 ล้านบาท ทำไมจึงเกิดเหตุการงูโผล่ขึ้นมากัดคนใช้ห้องน้ำจนได้รับบาดเจ็บได้
วันที่ 10 กรกฎาคม นายสัตวแพทย์อลงกรณ์ มหรรณพ สัตวแพทย์อาวุโส กล่าวว่า ช่วงหน้าฝนมักจะเห็นข่าวสัตว์เลื้อยคลานโผล่ไปที่นั้น ที่นี่อยู่เสมอ โดยเฉพาะงู ทั้งงูเหลือม งูหลาม งูเห่า หรืองูสิง ถ้าสังเกตพบว่าพื้นที่กรุงเทพจะมีงูเหล่านี้ออกมาให้คนเห็นบ่อยกว่าพื้นที่อื่นๆ เพราะคนกรุงเทพไม่ค่อยนิยมกินงูกันและไม่ค่อยมีศัตรูในธรรมชาติ ทำให้มีการแพร่พันธุ์อย่างรวดเร็ว โดยงูเหลือมงูหลามนั้นเมื่อผสมพันธุ์แล้ว จะตั้งท้องประมาณ 80 วัน ฟักไข่อีก 90 วัน และออกไข่มาครั้งละ 30-50 ฟอง อัตรารอดตายของลูกงูจะอยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 20 ตัว และงูเหลือม งูหลามตัวหนึ่งจะมีอายุขัยราว 30-35 ปี ทำให้ปริมาณของงูเหลือม งูหลามเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
“ยิ่งมีเหยื่อเยอะ ปริมาณงูก็จะเพิ่มปริมาณขึ้นมาตามเหยื่อ เพราะความอุดมสมบูรณ์ของอาหาร เหยื่อของงูเหล่านี้ได้แก่ หนู แมว หมา ไก่ เป็ด หรือแม้กระทั่งตัวเหี้ย งูเหลือ หรืองูหลามก็สามารถกินได้ แม้ว่าจะมีฟันที่คมมากแค่ไหนก็ตาม แต่เมื่อใดที่โดนงูรัด ก็จะสู้แรงรัดไม่ได้ พวกมันจะขาดอากาศหายใจ กระดูกแตกละเอียดทั้งร่าง และตายในที่สุด โดยเมื่อเหยื่อตาย งูจะใช้จมูกดมว่า หัวของเหยื่ออยู่ที่ไหน โดยงูที่มีขนาดตั้งแต่ 2 เมตรขึ้นไปนั้น สามารถอ้าปากได้กว้างถึง 10-12 นิ้ว ด้วยกัน สามารถ กินหมา กินแมว หินตัวเหี้ยได้ทั้งตัว โดย งูขนาด 1-2 เมตรนั้น กินไก่ 1 ตัว อยู่ได้ประมาณ 1 เดือน หากเป็นงูขนาด 2 เมตรขึ้นไป กินหมา กินแมว กินตัวเหี้ย ขนาดใหญ่ และต้องกินเป็ดกินไก่ ครั้งละ 4-5 ตัว ถึงจะอยู่ได้ 1 เดือน”นสพ.อลงกรณ์ กล่าว
นสพ.อลงกรณ์ กล่าวว่า งูเหลือม งูหลาม จะหากินในเวลากลางคืน และหลังจากที่กินอาหารอิ่มแล้ว จำเป็นจะต้องใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ เพื่อกระตุ้นการทำงานของระบบการย่อยอาหาร ดังนั้นจึงมักจะเห็นงูเหล่านี้ไปโผล่อยู่ตามกำแพงบ้าน ต้นไม้ใหญ่ เพื่อรับแสงแดด
“อีกสาเหตุหนึ่งของการเจองูเลื้อยเข้ามาในบ้าน หรือในที่สาธารณะบ่อยๆในช่วงฤดูฝน เป็นเพราะ เมื่อฝนตก น้ำอาจจะไปท่วมรังที่พวกมันเคยอาศัยอยู่แต่เดิม จึงต้องย้ายที่อยู่ โดยมันจะพยายามหาที่ที่ค่อนข้างอบอุ่น สำหรับการที่งูไปโผล่อยู่ตามชักโครก หรือโถส้วมนั้น เป็นเพราะมันตามเหยื่อเข้าไปในท่อระบายน้ำ และเมื่อตัวถังส้วมมีรูพอจะให้มันมุดตัวเข้าไปได้ มันก็มุดเข้าไป ขอทำความเข้าใจว่า ไม่เฉพาะงูเหลือม หรืองูหลามเท่านั้น ที่สามารถไปโผล่ในชักโครกได้ งูเห่า งูสิง หรืองูอื่นๆก็ไปโผล่ได้หมด”นายสัตวแพทย์อาวุโส กล่าว
นายสัตวแพทย์อลงกรณ์ กล่าวด้วยว่า หากบ้านไหน บริเวณบ้านมีโพรงอยู่รอบๆตัวบ้าน บ้านอยู่ติดป่า หรือมีบ่อหลุมขยะ ที่อาจจะมีหนู มีตัวเหี้ยมาคุ้ยเขี่ย เลี้ยงเป็ด เลี้ยงไก่ โอกาสที่งูทั้งหลายจะเข้ามาในบ้าน หรือมุดไปตามโพรงดิน แล้วไผล่ในชักโครกก็ย่อมมี โดยเฉพาะบ้านที่มีห้องน้ำอยู่ด้านล่าง
“หากกลัว เพื่อป้องกันไม่ให้งูออกมาทำอันตรายระหว่างที่เรากำลังทำธุระในห้องน้ำนั้น ก็ให้ราดน้ำ หรือกดชักโครกไล่มันไปเสียก่อน หรือจะให้แน่ใจ ก็ให้ราดน้ำยาล้างห้องน้ำแล้วราดน้ำหรือกดชักโครกตามไปทีหลัง สัตว์พวกนี้จะเกลียดกลิ่นสารเคมี”นสพ.อลงกรณ์ กล่าว
เมื่อถามว่า เราจะรู้ได้หรือไม่ว่า งูอยู่ในชักโครก หรืออยู่ในส้วม นายสัตวแพทย์อาวุโส กล่าวว่า สามารถตั้งข้อสังเกตง่ายๆคือ หากเห็น น้ำในโถส้วม หรือในชักโครก เคลื่อนไหวอย่างไม่มีเหตุผล หรือมีฟองอากาศผุดขึ้นมา ให้สันนิษฐานเอาไว้เลยว่า อาจจะมีงูหรือสัตว์ชนิดใด ชนิดหนึ่งอยู่ เพราะสัตว์ต้องใช้ออกซิเจนในการหายใจ และต้องมีการกระดุกกระดิก น้ำจะต้องกระเพื่อมไปมา
เมื่อถามอีกว่า ห้องน้ำของคนที่อาศัยอยู่บนตึกสูง มีโอกาสที่งูจะไปโผล่ในชักโครกหรือไม่ นสพ.อลงกรณ์ กล่าวว่า โอกาสน้อยมากเพราะการที่งูจะเลื้อยขึ้นที่สูงจะต้องใช้พื้นที่กว้างๆ เพราะเวลาเลื้อยเกล็ดจะกางออกเพื่อจิกลงไปบนพื้นผิว สำหรับดันลำตัวขึ้นไป เช่น เวลางูเลื้อยขึ้นต้นไม้ตัวมันจะงอขดไปมา ไม่ได้เลื้อยขึ้นตรงๆ ซึ่งการเลื้อยขึ้นที่สูงไปตามท่อน้ำนั้น งูจะทำไม่ค่อยได้
