เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม นายวิโชค พรหมคงบุญ ผู้อำนวยการการยางแห่งประเทศไทยจังหวัดสตูล กล่าวว่า จากสถานการณ์ปัญหาราคายางพาราตกต่ำทั้งประเทศมีผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของเกษตรกรชาวสวนยาง โดยเฉพาะจังหวัดสตูล เกษตรกรนิยมขายน้ำยางสดร้อยละ 90 ที่เหลือจะเป็นการทำยางในรูปแบบอื่น เช่น ยางแผ่นและเศษยาง เป็นต้น และตั้งแต่เดือนเมษายน ถึงพฤษภาคม 2560 ราคาน้ำยางสดกิโลกรัมละ 60 บาท ต่อมาเดือนมิถุนายน ถึงต้นเดือนกรกฎาคม ลดลงราคาอยู่ที่ 40 บาทต่อกิโลกรัม
สาเหตุหลักเกิดจากการส่งออกยางพาราธรรมชาติ ทั้งยางแท่ง ยางแผ่นรมควัน น้ำยางข้น และยางอื่นๆ ซึ่งราคาขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจของโลก และอีกสาเหตุหนึ่งคือกระบวนการแปรรูปน้ำยางสดเป็นน้ำยางข้น บวกกับปริมาณโรงงานที่แปรรูปน้ำยางข้นในจังหวัดใกล้เคียงกับจังหวัดสตูลกว่า 30 โรง ไม่สามารถรองรับการแปรรูปจากปริมาณน้ำยางที่มีมากเกินกำลังการผลิตของโรงงาน ทั้งหมดนี้จึงเป็นสาเหตุโดยรวมที่ทำให้ราคาน้ำยางลดลงอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด นายธีรวัฒน์ เดชทองคำ รองผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย ร่วมกับประธานเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางเขตภาคใต้ตอนล่าง ซึ่งจังหวัดสตูลอยู่ในเครือข่ายดังกล่าว ได้ประชุมหารือร่วมกับนายชัยพจน์ เรืองอรุณวัฒนา นายกสมาคมน้ำยางข้นไทย ถึงแนวทางที่จะทำให้ราคาน้ำยางสดของเกษตรกรชาวสวนยางในจังหวัดสตูล ดีขึ้นตามลำดับ คาดว่าจะทราบผลภายใน 2 สัปดาห์
ผู้อำนวยการการยางแห่งประเทศไทยจังหวัดสตูล กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอให้พี่น้องเกษตรกรชาวสวนยางทุกคนให้เชื่อมั่นว่าสถานการณ์ราคายางในปัจจุบันเป็นเพียงการปรับตัวในระยะสั้น และจะกลับสู่สถานการณ์ปกติโดยเร็วอีกครั้งอย่างแน่นอน จากการร่วมมือของทุกภาคส่วน ทั้งรัฐบาล และ การยางแห่งประเทศไทย ตระหนักถึงความเดือดร้อนของเกษตรกรเป็นอย่างดี และเร่งทำงานเพื่อแก้ไขมาโดยตลอด