แกนนำสวนยางใต้แนะ’บิ๊กตู่’ เดินหน้ายุทธศาสตร์พัฒนายางไทยระยะยาว ชี้ช่องม.44 ลดอุปสรรคกฎหมาย

เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม นายสุนทร รักษ์รงค์ เลขาธิการสภาเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางแห่งประเทศไทย (สคยท.) และนายกสมาคมเกษตรกรชาวสวนยาง 16 จังหวัดภาคใต้ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เสนอความเห็นถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อเปิดโอกาสให้เกษตรกรชาวสวนยางมีส่วนร่วมในการกำหนดยุทธศาสตร์ชาติและปฏิรูปการยางไทยโดยมียุทธศาสตร์การใช้ยางในประเทศให้รัฐบาลใช้มาตรา 44 เพื่อลดอุปสรรคด้านกฎหมาย ในการบังคับใช้นโยบายการใช้ยางในประเทศ มีเป้าหมาย 50% ภายใน 5 ปี สำหรับ 2 ปีแรก ให้มีการใช้ยางในประเทศไม่น้อยกว่า 25 % โดยมุ่งเน้นไปที่การทำถนนลาดยาง การทำอ่างเก็บน้ำ สนามกีฬา และอื่นๆ ที่มีการใช้ยางในปริมาณมาก นอกจากนั้นยุทธศาสตร์ด้านการตลาด ให้การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ตั้งบริษัทค้ายางเพื่อการส่งออก ภายใน 2 ปี โดยส่งเสริมและสนับสนุนให้สถาบันเกษตรกร กลุ่มเกษตรกร สร้างตลาดภายในเพื่อรวบรวมยาง และรัฐบาลไทยต้องกำหนดนโยบายเป็นผู้นำของโลกด้านตลาดยางพารา

“มียุทธศาสตร์การแปรรูปยางเพื่อเพิ่มมูลค่าให้ กยท.ตั้งบริษัทมหาชนเพื่อการแปรรูปยาง ภายใน 3 ปี พร้อมส่งเสริมและพัฒนาให้สถาบันเกษตรกรชาวสวนยางแปรรูปยางเพื่อเพิ่มมูลค่า โดยมีบริษัทมหาชนของ กยท.เป็นพี่เลี้ยงทางการตลาดจนเข้มแข็งและมีธรรมาภิบาลภายใน 5 ปี ส่วนยุทธศาสตร์ว่าด้วยคุณภาพชีวิตเกษตรกรชาวสวนยางให้ กยท.ทำตามเจตนารมณ์ของ พ.ร.บ.การยางแห่งประเทศไทย 2558 เรื่องการจัดสวัสดิการ การจดทะเบียนเกษตรกรชาวสวนยางที่ไม่มีเอกสารสิทธิ การสร้างกระบวนมีส่วนร่วมและการสร้างความเข้มแข็งของเครือข่ายเกษตรกรและสถาบันเกษตรกร เนื่องจากที่ผ่านมา กยท.ได้รวบอำนาจและไม่ได้มีความจริงใจที่จะสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมของเกษตรกรชาวสวนยางอย่างแท้จริง”

นายสุนทรกล่าวอีกว่า ในอนาคตต้องมียุทธศาสตร์การทำสวนยางอย่างยั่งยืน เป็นเรื่องสำคัญที่สุด โดยเปลี่ยนสวนยางเชิงเดี่ยวให้เป็นป่ายาง หรือป่าเศรษฐกิจลักษณะวนเกษตร หรือตามแนวทางธนาคารต้นไม้ ภายใน 10 ปี โดยเฉพาะเกษตรกรชาวสวนยางที่จะใช้ประโยชน์พื้นที่ป่าไม้ ต้องอยู่ภายใต้หลักเกณฑ์มีต้นยางได้ไม่เกิน 59 ต้นต่อไร่ จากปกติมีการปลูกยาง76 ต้นต่อไร่ และต้องปลูกต้นไม้ยืนต้นที่มีค่าทางเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 40 ต้นต่อไร่ จะทำให้จำนวนต้นยางในพื้นที่ป่า 15 ล้านไร่ลดลงไม่น้อยกว่า 20% และต้องมียุทธศาสตร์แนวร่วมเพื่อสร้างความร่วมมือกับทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน ภาคประชาสังคม และเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางที่เป็นภาคประชาชน ถ้าหากรัฐบาลทำได้เชื่อว่าว่าราคายางจะมีเสถียรภาพที่ราคากิโลกรัมละ 70-90 บาท ภายใน 2 ปี

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image