ชุดสืบมุ่งแกะรอย5ปมคดีฆ่ายกครัว ตรวจเส้นทางหลบหนี-หาข้อมูลย้อนหลังในพื้นที่

เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ที่ห้องประชุมตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบช.ส.ได้รับมอบหมายจาก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ให้ทำหน้าที่หัวหน้าชุดสืบสวนคลี่คลายคดีสังหารหมู่ 8 ศพ ครอบครัวนายวรยุทธ สังหลัง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก ที่บ้านเลขที่ 14/3 หมู่ 1 ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก ได้เรียกประชุมชุดสืบสวน ประกอบด้วย ผกก.สืบสวน ภ.จว.ทั้ง7จังหวัดสังกัด ตำรวจภูธรภาค 8(บช.ภ.8) ผกก.กลุ่มงานสืบงาน บก.สส.ภ.8, กองปราบปราม, ตำรวจสันติบาล แบ่งมอบหมายงานในการสืบสวนติดตามพยานบุคคล พยานหลักฐาน และวัตถุพยานเพื่อเชื่อมโยงการสืบสวนประเด็นข้อสงสัยหาสาเหตุที่นำไปสู่การสังหาร และให้ชุดสืบสวนเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุร่วมกับการเก็บพยานหลักฐานของกองพิสูจน์หลักฐานกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 8 สุราษฎร์ธานี เพิ่มเติมอีกครั้ง

โดยเฉพาะให้ตรวจเส้นทางหลบหนี ของกลุ่มคนร้ายที่ใช้รถยนต์ยี่ห้อ ฟอร์จูนเนอร์สีดำ และ รถเก๋งโตโยต้า รุ่นยาริส สีขาว ซึ่งเป็นรถยนต์ของคนร้าย โดยให้ตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังในพื้นที่ภาค 8 ห้วงก่อนเกิดเหตุ 7 วัน และติดตามเบาะแสรถเก๋งโตโยต้า รุ่นยาริส สีเทาของผู้เสียหายที่คนร้ายนำไปหลังก่อเหตุ

รายงานข่าวแจ้งว่า ในที่ประชุม พล.ต.ท.สุวัฒน์ ได้สั่งกำชับให้ชุดสืบสวน ตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกอย่างละเอียดใน 5 ประเด็นสำคัญทั้งความขัดแย้งการออกประทานบัตรโรงโม่หิน, เรื่องชู้สาว, ความขัดแย้งที่ดินสาธารณะ, ตรวจสอบทรัพย์สินของผู้เสียชีวิต และเรื่องยาเสพติด

ทั้งนี้ ได้มีการหยิบยกพฤติการณ์การก่อเหตุของคนร้ายมาวิเคราะห์หาความเชื่อมโยงถึงการใช้เวลาร่วม 8 ชั่วโมงในการก่อเหตุ โดยตั้งข้อสงสัยว่าอาจจะมีสิ่งของที่สำคัญบางอย่างอยู่ในบ้านที่เกิดเหตุและต้องรอจนนายวรยุทธกลับเข้าบ้านจึงลงมือสังหารพร้อมกัน จึงได้ประสานสุนัขทหารเข้าร่วมตรวจสอบ และอยู่ระหว่างประสานขอความร่วมมือจากโต๊ะอิหม่ามประจำมัสยิดและผู้เกี่ยวข้องอีกครั้ง

Advertisement

แหล่งข่าวจากหน่วยงานทหาร ระบุว่า กรณีคนร้ายสวมชุดลายพรางในการก่อเหตุ พล.ท.ปิยะวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาค 4 ได้สั่งให้มีการตรวจสอบโดยเร่งด่วน แต่คาดว่าน่าจะเป็นการสวมรอยใส่ชุดพลางเพื่อเบี่ยงเบนประเด็นความสนใจในการติดตามตัวคนร้าย

แหล่งข่าว กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการส่งชุดทหารลงพื้นที่ร่วมกับชุดสืบสวนของตำรวจตรวจสอบหาสาเหตุได้พบจุดสำคัญที่กลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุมีทั้งหมด7 คน โดย1ใน7มีพฤติการณ์สวมหมวกโม่งปิดอำพรางใบหน้าตลอดเวลาและไม่พูดจาส่งเสียงใดๆเลย จึงคาดว่าน่าจะเป็นคนในพื้นที่หรือมาจากกลุ่มคู่กรณีที่รู้จักกับครอบครัวนายวรยุทธเป็นผู้นำคนร้ายไปก่อเหตุสังหาร ส่วนคนร้ายอีก6คนไม่มีการปิดบังใบหน้าและใช้ภาษากลางพูดจา จึงคาดว่ามาจากนอกพื้นที่

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image