ปปป.ไม่ลุยตรวจ”เงินทอน”วัดเอง ให้พศ.แจ้งที่ไหนโกงถึงสอบ อ้างเสียงบฯ-เวลา-กำลังคน

จากกรณี กองบังคับการตำรวจปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) นำกำลังเข้าตรวจค้นพร้อมกัน 10 จุดในหลายจังหวัดทั่วประเทศ ตามยุทธการปราบโกงวัด เพื่อจับกุมผู้เกี่ยวข้องเครือข่ายทุจริตเงินอุดหนุนงบประมาณบูรณะและปฏิสังขรณ์วัด ของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) หลังตรวจพบว่ามีวัดสร้างความเสียหายแก่รัฐสูงถึง 60.5 ล้านบาท พร้อมการขยายผลหาวัดและขบวนการที่กระทำความผิดอย่างต่อเนื่องจนได้วัดเป้าหมายทั้งหมด27 วัดทั่วประเทศซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเข้าข่ายกระทำผิดหรือไม่ อย่างไรก็ตามทปปป.จะขยายผลคดีนี้เป็นครั้งสุดท้ายก่อนส่งมอบให้ พศ.

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 12 กรกฎาคม ที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผบก.ปปป.เปิดเผยว่า ที่ได้ให้สัมภาษณ์ไปว่าจะให้ทาง พศ. ดำเนินการต่อไปในการขยายผลหาวัดกระทำผิดนั้น เนื่องจาก ทาง พศ.มีข้อมูลทั้งหมดอยู่ในมือ จึงเป็นเรื่องง่ายในการตรวจสอบวัดที่กระทำความผิด เมื่อพบวัดที่เข้าข่ายทุจริตแล้วก็ส่งเรื่องมาให้ทาง ปปป.ทำการสืบสวนสอบสวนตามอำนาจหน้าที่ เพียงแต่ ปปป.จะไม่เป็นฝ่ายให้กำลังเจ้าหน้าที่ลงไปกระจายสุ่มตรวจวัดต้องสงสัยทั่วประเทศเหมือนครั้งแรกแล้วเพราะการลงพื้นที่แต่ละครั้ง เสียงบประมาณ เสียเวลารวมถึงกำลังคนจำนวนมาก

ผบก.ปปป. กล่าวต่อว่า ในส่วนที่มีประชาชนกังวลเรื่องความโปร่งใสที่จะให้หน่วยงาน พศ. ตรวจสอบกันเองนั้น เรื่องนี้เชื่อมั่นในหน่วยงาน พศ. ที่มีความตั้งใจอย่างแน่วแน่ในการค้นหากลุ่มผู้กระทำความผิด หากมีข้อมูลอื่นๆว่ามีการทุจริจแล้วทาง พศ. ไม่ได้ลงไปตรวจสอบ ทาง ปปป. ก็จะไปดำเนินการสืบสวนเอง ทั้งนี้เหตผลที่ ปปป.ไม่ขยายผลต่อไปนั้นไม่ได้เกิดจากการถูกกัดดันจากฝ่ายไหน เพียงแต่มองว่าการให้พศ.ไปตรวจสอบก่อนจนพบว่ามีการทุจริตที่ไหนอย่างไรแล้วจากนั้นมาแจ้งทาง ปปป. ลงไปสืบสวนเป็นวิธีการบริหารจัดการคดีที่มีประสิทธิภาพดีที่สุด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image