เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่หมู่ 6 บ้านโคกสูง ต.สามัคคี อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร หลังจากที่นายจอสายฟ้า คุณสุทธ์ อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 196 หมู่ 6 บ้านโคกสูง ต.สามัคคี อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร พร้อมชาวบ้านกว่า 20 ครอบครัวได้ร้องผ่านสื่อมวลชนว่าได้รับความเดือดร้อนจากการใช้เส้นทางถนนดินลูกรัง เข้าออกหมู่บ้านสู่ตัวอำเภอเลิงนกทายากลำบาก เนื่องจากถนนหินลูกรังเข้าไปบ้านโคกสูง ต.สามัคคี ก่อนที่จะทะลุออก ต.ศรีแก้ว อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร ระยะทาง 3 กิโลเมตร มีสภาพเละเป็นโคลนตม ช่วงฤดูฝนมาถึงชาวบ้านและเด็กนักเรียนที่ใช้เส้นทางไปตัวอ.เลิงนกทา สัญจรด้วยความลำบาก ชาวบ้านประสบปัญหาซ้ำซากมากว่า 30 ปี ได้ร้องทุกข์ไปที่หน่วยงานที่รับผิดชอบ ตั้งงบประมาณทำถนนลาดยางเหมือนหมู่บ้านอื่นแต่ได้รับคำตอบว่าให้รอ จึงพากันนำต้นกล้าข้าวไปปักดำบริเวณกลางถนนที่มีน้ำขังและเป็นโคลนตมเพื่อประท้วงหน่วยงานที่รับผิดชอบ
นายจอสายฟ้ากล่าวว่า บ้านโคกสูงและอีกหลายหมู่บ้านที่จะต้องใช้สัญจรไปมาและเดินทางเข้าออกหมู่บ้านเพื่อออกสู่ตัวอำเภอเลิงนกทา ซึ่งถนนที่สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านอย่างหนักมีระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ที่เป็นถนนลูกรัง แต่ปัจจุบันมีสภาพเป็นหลุมเป็นบ่อ น้ำขังตลอดสายและเป็นโคลนตม บางจุดลึกกว่า 30 เซนติเมตร ชาวบ้านเดินทางด้วยความยากลำบากโดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนจะมีสภาพเละตลอดสาย แต่พอช่วงหน้าแล้งก็จะมีฝุ่นคละคลุ้ง ชาวบ้านต้องทนความลำบากมานานกว่า 30 ปีแล้ว เคยทำหนังสือร้องเรียนไปยังองค์การบริหารส่วนจังหวัดยโสธร ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบรวมทั้งแจ้งปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านไปยังสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดที่อยู่ในพื้นที่รับผิดชอบก็ได้รับการแจ้งว่า ทางส่วนราชการไม่มีงบประมาณในการซ่อมแซมถนนแล้วเรื่องก็เงียบหายไป จนชาวบ้านทนความเดือดร้อนไม่ไหวจึงต้องร้องผ่านสื่อมวลชนเพื่อเป็นกระบอกเสียงพร้อมกับเร่งให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเข้าดำเนินการแก้ไขให้กับชาวบ้านด้วย นอกจากนี้ พวกตนยังได้รวมตัวนำมัดกล้ามาปักดำกลางถนนเพื่อประชดหน่วยงานที่รับผิดชอบ และเพื่อสะท้อนไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้รับทราบปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน
