เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม พ.อ.สมศักดิ์ เตชะสืบ รอง ผอ.กอ.รมน.จ.ลำปาง พร้อมด้วยนายมนตรี นาคถาวร นายอำเภอเกาะคา, นายชูเกียรติ พงศ์ศิริวรรณ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 (ลำปาง) และนายสุเทพ พุทชา ผู้อำนวยการส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 (ลำปาง) นำกำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ สนธิกำลังร่วมกับตำรวจ กก.4 บก.ปทส.เจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันและปราบปรามภาคเหนือ กรมป่าไม้ เจ้าหน้าที่ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดลำปาง เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.เกาะคา เจ้าหน้าที่ทหาร กกล.รส.ลป. มทบ.32 ตำรวจ สภ.เกาะคา ได้เข้าตรวจยึดพื้นที่ทวงคืนผืนป่าที่บริเวณสวนยางพารา ตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.วังพร้าว อ.เกาะคา จ.ลำปาง จำนวน 2 จุดคือที่หมู่ 2 บ้านวังพร้าว และหมู่ 6 บ้านสบจาง หลังพบว่าพื้นที่ดังกล่าวถูกนายทุนต่างถิ่นเข้ายึดถือครอบครองพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติแม่ไฮ และป่าแม่จางใต้ฝั่งซ้าย รวมทั้งหมด 3 แปลง เป็นเนื้อที่ทั้งหมด 115-1-22 ไร่ ซึ่งคิดเป็นมูลค่าความเสียหายของรัฐ 7,840,740 บาท
โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่า พื้นที่ดังกล่าวซึ่งเป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติได้มีนายทุนรายใหญ่จากต่างจังหวัดเข้ามายึดถือครอบครองปลูกต้นยางพาราไว้จำนวนหลายหมื่นต้น ซึ่งจากการตรวจสอบก็ไม่พบมีบุคคลใดอยู่ที่สวน จึงได้ปิดป้ายประกาศให้ผู้ที่ครอบครองที่ดินแปลงดังกล่าวได้นำเอกสารหลักฐานการครอบครองที่ดินมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ภายใน 15 วัน ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปก็ไม่มีผู้ใดนำหลักฐานมาแสดงจึงได้ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายตรวจยึดพื้นที่บุกรุกปลูกต้นยางพาราตามนโยบายทวงคืนผืนป่า โดยจะได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตัวผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องมาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
อย่างไรก็ตาม พบว่าพื้นที่ จ.ลำปางมีกลุ่มนายทุนทั้งในพื้นที่และนายทุนต่างถิ่นบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติและยึดถือครอบครองปลูกต้นยางพาราเป็นเนื้อที่รวมกว่า 688 ไร่ ที่ผ่านมาได้ตรวจยึดไปแล้วจำนวน 482 ไร่ ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ตุ๋ยฝั่งซ้ายและแม่ตุ๋ยฝั่งซ้าย(ป่าแม่เมาะแปลงสอง) เขตบ้านใหม่จำบอน ต.ต้นธงชัย อ.เมือง จ.ลำปาง โดยจากนี้เจ้าหน้าที่จะได้เร่งดำเนินการเข้าตรวจยึดคืนพื้นที่ป่าที่บุกรุกทั้งหมดเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
