ระดม 20 จนท.ล้างบ้านลุงเลี้ยงนกพิราบ สยองแมลงสาบไต่ยั้วเยี้ย กินโชว์นักข่าวด้วย ยันจะเลี้ยงต่อ เพราะสงสาร

วันที่ 13 กรกฎาคม 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่สำนักอนามัย และสำนักงานเขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร (กทม.) เข้าเจรจากับนายวีระศักดิ์ สุนทรจามร อายุ 60 ปี อาชีพเก็บของเก่า อยู่บ้านเลขที่ 13 ซอยอุดมสุข ถนนสุทธิสารวินิจฉัย เขตห้วยขวาง ที่เลี้ยงนกพิราบเป็นจำนวนมาก เพื่อขอเข้าทำความสะอาดพื้นที่รอบบ้าน หลังมีชาวบ้านร้องเรียนว่าบริเวณดังกล่าวมีกลิ่นเหม็น สกปรก โดยตั้งแต่ปี 2545 เคยถูกเพื่อนบ้านฟ้องร้องเรื่อยมา แต่เจ้าตัวยอมเสียค่าปรับเป็นเงิน 1,000 บาททุกครั้ง หลังเจรจาแล้วเสร็จเจ้าหน้าที่ กทม.กว่า 20 คน ระดมกำลังพร้อมรถเก็บขยะ 1 คัน เข้าทำความสะอาด เก็บขยะ สิ่งของเครื่องใช้ที่ไม่สามารถใช้งานได้ออกจากบ้านหลังดังกล่าว

ทั้งนี้ นายวีระศักดิ์เปิดเผยว่า ยินยอมให้เจ้าหน้าที่ กทม.เข้าทำความสะอาดบ้านและจัดระเบียบเฉพาะบริเวณหน้าบ้าน ส่วนภายในบ้านนั้นไม่อนุญาต และหลังจากนี้ยังยืนยันที่จะเลี้ยงนกพิราบต่อไป เนื่องจากมีความฝังใจในวัยเด็กที่เห็นนกพิราบถูกเหล็กทับและตายจึงรู้สึกสงสาร โดยปัจจุบันได้เลี้ยงนกพิราบนับพันตัว อีกทั้งยังเลี้ยงแมวด้วย

 

Advertisement

 

 

Advertisement

“แม้ผมจะเลี้ยงนกพิราบเป็นจำนวนมาก แต่ก็ไม่เคยป่วยเป็นโรคอะไร นอกจากเป็นไข้หวัด และจากนี้ถ้ามีนกมากก็ยังคงจะให้อาหารต่อไป และยังคงเลี้ยงดูนกพิราบต่อไป” นายวีระศักดิ์กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ช่วยกันทำความสะอาดบ้านของนายวีระศักดิ์ พบว่ามีแมลงสาบวิ่งและไต่ยั้วเยี้ยออกมาจากที่ซ่อนเป็นจำนวนมาก ขณะที่เพื่อนบ้านได้นำยาฉีดไล่แมลงสาบมาฉีดไล่บริเวณรอบบ้านของตนเองเพื่อป้องกันแมลงสาบวิ่งเข้าบ้าน ขณะที่นายวีระศักดิ์ได้กินแมลงสาบในระหว่างการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน พร้อมกับระบุว่าสาเหตุที่กินแมลงสาบ เพราะว่าเคยชงกาแฟและวางทิ้งไว้ในบ้าน ปรากฏว่ามีแมลงสาบ 10 กว่าตัวลงไปในแก้วกาแฟ ด้วยความเสียดายกาแฟ เนื่องจากมีฐานะยากจนจึงดื่มกาแฟไปพร้อมกับแมลงสาบ

ด้าน นพ.เมธิพจน์ ชาตะเมธีกุล ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคติดต่อ สำนักอนามัย กทม. กล่าวว่า สำนักอนามัยและสำนักงานเขตห้วยขวางได้นำเจ้าหน้าที่จำนวนกว่า 20 คน เข้าทำความสะอาดบ้านของนายวีระศักดิ์ โดยได้พูดคุยกับเจ้าของบ้านซึ่งให้ความร่วมมือในระดับหนึ่ง ทั้งนี้ หลังจากขนย้ายสิ่งของที่ไม่ใช้งานรอบบ้านแล้ว เจ้าหน้าที่ได้นำน้ำยาฆ่าเชื้อพ่นล้างทำความสะอาดโดยรอบบริเวณบ้านเพื่อขจัดกลิ่นและเชื้อโรค

“ในภาพรวมกลิ่นและความสะอาดดีมากขึ้น โดยเจ้าหน้าที่ก็พยายามเปิดใจพูดคุยกับเจ้าของบ้าน เนื่องจากเดิมทีเจ้าของบ้านไม่ได้ให้ความร่วมมือ โดยให้เหตุผลว่าเคยเป็นคดีความกับทางสำนักงานเขตห้วยขวางและไม่พึงพอใจกับการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานเขตด้วย อย่างไรก็ตาม เจ้าของบ้านก็ให้ความร่วมมือในระดับหนึ่ง ส่วนเสียงตอบรับจากชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในละแวก ทุกคนก็อยากให้ กทม.เข้ามาทำความสะอาด และภายหลังเจ้าหน้าที่เข้าเก็บกวาด ชาวบ้านก็รู้สึกดีขึ้น หมดความกังวลใจในเรื่องโรคติดต่อในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม แม้เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปพูดคุย แต่ปัจจุบันเจ้าของบ้านก็ยังคงยืนยันที่จะเลี้ยงนกพิราบเช่นเดิม” นพ.เมธิพจน์กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า กทม.จะมีแนวทางดำเนินการต่อไปอย่างไร นพ.เมธิพจน์ กล่าวว่า ได้มีข้อเสนอแนะไปยังเจ้าของบ้าน หากมีความประสงค์จะเลี้ยงนกพิราบ ต้องให้เจ้าของบ้านย้ายพื้นที่การเลี้ยงนกพิราบไปยังพื้นที่โล่ง ไม่ใช่ภายในชุมชน เนื่องจากจะก่อให้เกิดเชื้อโรคสู่โรคต่างๆ อันส่งผลกระทบต่อชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียง ส่วนจำนวนนกภายในบ้านมีประมาณ 40-50 ตัว แมลงสาบมีจำนวนมากตามท่อน้ำและเครื่องเรือนนั้นเกิดจากการที่เจ้าของบ้านไม่ทำความสะอาด

“ขั้นตอนต่อไป สำนักงานเขตห้วยขวางจะต้องค่อยๆ เข้ามาพูดคุยกับเจ้าของบ้านเพื่อให้เกิดความร่วมมือในการรักษาความสะอาด เบื้องต้นอาจจะแนะนำวิธีทำความสะอาดบ้านเพื่อตัวเจ้าของบ้านและเพื่อนบ้าน ในส่วนของสำนักอนามัยก็จะต้องติดตามผลอย่างต่อเนื่อง หากเขตพูดคุยกับเจ้าของบ้านสำเร็จ สำนักอนามัยจะนำอุปกรณ์มาไล่นกพิราบ เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน จำเป็นต้องค่อยๆ พูดคุยกัน” นพ.เมธิพจน์กล่าว

ทั้งนี้ ข้อมูลจากสำนักควบคุม ป้องกันและบำบัดโรคสัตว์ กรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ระบุว่า หากคนอยู่ใกล้ชิดนกพิราบอาจได้รับเชื้อโรคคลามัยดิโอซีส หรือโรคไข้นกแก้วซึ่งเกิดจากเชื้อ Chlamydia psittaci หรือปัจจุบันเรียกเป็น Chlamydophila psittaci เป็นโรคที่ติดต่อระหว่างนกด้วยกัน และทำให้เกิดโรคในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหลายชนิด รวมถึงแมวและคนด้วย นอกจากนี้ อีกโรคหนึ่งที่พบได้และทำให้คนเสียชีวิตมาแล้วหลายรายคือ โรคสมองอักเสบจากเชื้อรา คริปโตค็อกคัส (Cryptococcal meningitis) หรือ Cryptococcosis ซึ่งเกิดจากเชื้อคริปโตค็อกคัส นีโอฟอร์มาน (Cryptococcal neoformans) เป็นเชื้อราชนิดหนึ่ง เจริญเติบโตได้ง่าย และพบในอุจจาระของนกพิราบ

โดยโรคนี้ติดต่อได้ในสัตว์ เช่น แมว สุนัข ปศุสัตว์ รวมถึงคน แต่การติดต่อระหว่างคนสู่คนเกิดขึ้นได้ยากมากอาจมีอาการป่วยอย่างเฉียบพลัน หรืออาจเป็นแบบเรื้อรัง ลักษณะอาการคือ ผิวหนังเป็นตุ่ม หนอง ผื่น แพ้ คัน อาจแสดงอาการสมองอักเสบ อาการอื่นๆ เช่น ตาอักเสบ โพรงจมูกอักเสบ ข้ออักเสบ เป็นต้น นอกจากนั้น ยังมีรายงานการพบเชื้อไข้หวัดนก (H5N1) ในนกพิราบตายด้วย ส่วนโรคอื่นๆ ที่เกิดจากนกพิราบ แม้จะพบ แต่น้อยมากและพบในต่างประเทศ เช่น ปอดอักเสบ Q fever ท้องเสีย อาการแพ้หรือเครียด เนื่องจากหมัดจากนกพิราบ โดยคนที่มีความเสี่ยงในการเกิดโรคดังกล่าวคือบุคคลที่มีอาชีพเกี่ยวข้อง และใกล้ชิดกับนกพิราบ ซึ่งมีโอกาสสัมผัสโดยตรงกับแหล่งอาศัยและมูลอุจจาระได้ง่าย รวมทั้งผู้ที่มีความบกพร่องทางภูมิคุ้มกันโรค โดยในเด็กและคนชราอาจมีความเสี่ยงต่อการติดโรคมากกว่าคนปกติถึง 1,000 เท่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคจากเชื้อราที่พบในมูลขับถ่ายของนกพิราบ หากต้องสัมผัสหรืออยู่ใกล้ชิดนกพิราบควรมีผ้าปิดจมูก และอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าหลังสัมผัสสัตว์ ทำความสะอาดเก็บกวาดมูลนกอย่าให้หมักหมม เพราะจะเป็นแหล่งเพาะเชื้อรา

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image