จากความมุ่งมั่นของนิสิตรุ่นพี่กลุ่มหนึ่งที่ต้องการสร้างค่ายอาสาระหว่างปิดภาคเรียน เพื่อจุดประกายการเรียนรู้และปูพื้นฐานด้านการทดลองทางวิทยาศาสตร์ให้กับน้องๆ ก่อนก้าวสู่รั้วมหาวิทยาลัย
จนถึงวันนี้นับเป็นเวลากว่า 22 ปีแล้วที่ “นิสิตรากแก้ว” ร่วมสืบทอดอุดมการณ์จากรุ่นสู่รุ่น ถ่ายทอดประสบการณ์ ส่งผ่านความรู้ และสร้างแรงบันดาลใจในการเรียนรู้เชิงวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ให้กับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย หมุนเวียนไปตามจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ
โครงการค่ายวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ “รากแก้ว” ดำเนินการโดยฝ่ายแนะแนวและการศึกษา องค์การบริหารสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ภายใต้การสนับสนุนของ บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด ล่าสุดจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 29 ที่โรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย จังหวัดเลย มีนักเรียนชั้น ม.ปลาย ให้ความสนใจถึง 282 คน
เอมิกา อาษาเอื้อ นิสิตคณะวิทยาศาสตร์ สาขาวิทยาศาสตร์ทางทะเล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประธานค่ายแรกแก้ว ครั้งที่ 29 เล่าว่า ค่ายรากแก้วจัดขึ้นเพื่อสร้างแรงบันดาลใจและจุดประกายให้น้องๆ ได้ค้นพบความถนัดและความชอบในวิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ และเสริมด้วยกิจกรรมเพื่อพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ และการแนะแนวสายอาชีพ เพื่อให้น้องๆ ได้ตระหนักถึงทางเลือกด้านการศึกษาและการประกอบอาชีพที่หลากหลายยิ่งขึ้น
แม้จะเป็นค่ายวิชาการ แต่ค่ายรากแก้วไม่ได้สอนทฤษฎี แต่เน้นการฝึกปฏิบัติจริงด้วยกระบวนการทดลองทางวิทยาศาสตร์
ญาณวร ชื่นชม นิสิตคณะครุศาสตร์ สาขาวิชาการศึกษาวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อธิบายว่า เรานำอุปกรณ์วิทยาศาสตร์มาให้น้องๆ ได้สัมผัสจริง มีการจำลองสถานการณ์ให้น้องได้ระดมความคิด และลงมือปฏิบัติเองทุกขั้นตอน เพื่อสร้างพื้นฐานการเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์และการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ ตลอดจนฝึกการคิดอย่างเป็นเหตุเป็นผล และการนำเสนอข้อมูลการทดลองอย่างถูกต้อง ซึ่งเป็นประโยชน์ทั้งต่อชีวิตประจำวัน และการเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย
ตลอดระยะเวลา 8 วัน ในค่ายรากแก้ว น้องๆ ได้สัมผัสและเรียนรู้ทักษะต่างๆ ผ่านกิจกรรมเชิงวิชาการที่หลากหลาย
บิ๊ก-สุทธิภัทร แก่นมั่น จากโรงเรียนสงครามวิทยา เล่าว่า สนใจอยากเข้าค่ายนี้มานานแล้ว เพราะชอบวิทยาศาสตร์ และอยากเข้าศึกษาต่อที่จุฬาฯ ที่นี่เราได้ทำการทดลองมากมายที่ไม่มีในชั้นเรียน นอกจากจะได้ทักษะด้านวิทยาศาสตร์และการคำนวณเพิ่มมากขึ้นแล้ว นับเป็นแรงบันดาลใจผลักดันให้ผมอยากเป็นครูสอนวิทยาศาสตร์ในอนาคต
เช่นเดียวกับลูกอี๋-นางสาวเจตสุภา โสภณพุทธพร จากโรงเรียนสิงห์สมุทร บอกว่า เข้าร่วมค่ายนี้เพราะต้องการหาคำตอบให้กับตัวเองว่าควรจะเลือกเรียนต่อในสาขาวิชาใด ค่ายนี้ให้ทั้งความรู้ทางวิทยาศาสตร์จากการทดลอง และความสนุกจากการทำกิจกรรมสันทนาการ ทำให้ได้แรงบันดาลใจตลอดจนแนวคิดในการตัดสินใจศึกษาต่อและประกอบอาชีพในอนาคต
ส่งต่อแรงบันดาลใจ