เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม ที่โรงแรมดุสิตธานี นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธานศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) กล่าวถึงกรณีมอบหมายให้นายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ในฐานะเลขานุการ ศอตช. ช่วยสนับสนุนการตรวจสอบคดีทุจริตโกงเงินงบประมาณบูรณะซ่อมแซมปฏิสังขรณ์วัด หรือการทุจริตเงินทอนวัด จากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ทั่วประเทศ ว่าภายในสัปดาห์นี้จะประชุมร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง ศอตช. กองบังคับการการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) และ พศ. ที่ผ่านมา ปปป.เป็นผู้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนมาโดยตลอด แต่ขณะนี้เห็นว่ามีประเด็นซับซ้อนยิ่งขึ้น ทาง ศอตช.จึงพร้อมช่วยสนับสนุนตรวจสอบเรื่องดังกล่าว
นายสุวพันธุ์กล่าวต่อว่า ศอตช.มีนโยบายตรวจสอบการใช้งบประมาณแผ่นดินอย่างถูกต้อง ส่วนกรณีที่มีพระชั้นผู้ใหญ่ออกมาแสดงความไม่พอใจการทำงานของ พศ. ขณะนี้ยังไม่ได้รับเรื่องแต่อย่างใด และคาดว่าจะไม่ก่อให้เกิดความรุนแรงหรือเหตุการณ์ประท้วง ส่วนการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนั้น ทาง ปปป.จะบอกสิ่งที่ทำไปแล้วว่ามีอะไรบ้าง และต้องการให้ ศอตช.สนับสนุนเรื่องใดเพื่อให้คดีมีความสมบูรณ์ โดย ศอตช. เป็นหน่วยงานที่มีการบูรณาการร่วมกันหลายหน่ยวงาน ทั้งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ในการเข้าไปตรวจสอบเพิ่มเติม
นายสุวพันธุ์กล่าวอีกว่า ส่วนการใช้กฎหมายมาตรา 44 นั้น ศอตช.ได้รับเรื่องจาก สตง.แล้ว แต่จะต้องประชุมพิจารณาเพื่อตรวจสอบการทุจริตประพฤติมิชอบก่อนเสนอให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี มีความเห็นชอบต่อไป โดยมาตรา 44 ต้องใช้ความรอบคอบและต้องดูงบประมาณของ พศ. เพราะเรื่องดังกล่าววัดสามารถเสนอโครงการบูรณปฏิสังขรณ์วัดได้ แต่เมื่อ พศ.อนุมัติเงินช่วยเหลือ แต่ถูกเจ้าหน้าที่ของบประมาณคืนไปทำอะไร ต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริง
