ฉลามขาว-พยัคฆ์ไพร-กอ.รมน.ลุยจับ 3 รีสอร์ตเมืองจันทน์ กรมอุทยานฯเพิกถอนสำนักสงฆ์ดังรุกป่า ซุกไม้เถื่อน

เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม ตั้งแต่ช่วงเช้าที่เขตห้ามล่าพันธ์สัตว์ป่า คุ้งกระเบน ต.คลองขุด อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ศูนย์ปฎิบัติการพิทักษ์ป่า(ศปก.พป.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำโดยนายรัชชัย พรพา หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษฉลามขาว กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง(ทช.) นายภุชงค์ สฤษฏีชัยกุล ผอ.สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 ทช.พร้อม นายชีวะภาพ ชีวะธรรม หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษพยัคไพร กรมป่าไม้ พันเอก พงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฏิบัติการ ศปป.4 กอ.รมน.ร่วมบูรณาการสนธิกำลัง ทหาร ตำรวจและฝ่ายปกครองในพื้นที่ จ.จันทบุรี กว่า หนึ่งร้อยนาย เปิดปฎิบัติการทวงคืนผืนป่าตรวจสอบการบุกรุก ป่าชายเลน ใน อ.ท่าใหม่และอ.แหลมสิงห์

โดยจุดแรกเข้าตรวจสอบบริเวณ บ้านเรือรีสอร์ต ตั้งอยู่ติดสะพานแขมหนูและปากอ่าวแขมหนู ต.คลองขุด อ.ท่าใหม่ พบอาคารสูง 2 ชั้น 4 – 5 หลัง บ้านพักและร้านอาหารทรงเรือ นายรัชชัย ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ตรวจวัดพิกัดพื้นที่ พบว่ามีการบุกรุกพื้นที่กรมป่าไม้ ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 จำนวน 8 ไร่ สภาพความผิดยึดถือ ครอบครองที่ดิน ในเขตป่าไม้ และสร้างสิ่งรุกล้ำลงลำน้ำ ถมดินเข้าไปในทะเล ตามมาตรา 54 พ.ร.บ.ป่าไม้ พุทธศักราช 2484  ผู้ถือคลองคือ นายอนันต์ ชนะสิทธิ์ จึงแจ้งความดำเนินคดี

 

Advertisement

จากนั้นเขาตรวจสอบจุดที่ 2 ซีเชล  วิลเลส รีสอร์ต อยู่ติดชายหาดใกล้กับเขตในเขตห้ามล่าพันธ์สัตว์ป่าคุ้งกระเบน พบมีการรุกล้ำพื้นที่เขตในเขตห้ามล่าพันธ์สัตว์ป่าคุ้งกระเบน ของกรมอุทยานแห่งชาติฯ จำนวน 5 ไร่ ผู้ถือครองคือ นางรุ่งจิตร จตุวรพัฒ จึงแจ้งความดำเนินคดี ต่อมาจุดที่ 3 ตรวจสอบภูฟ้ารีสอร์ตหรือโรงแรมภูฟ้าเดิม พบมีการก่อสร้างรุกล้ำ ในเขตคาบเกี่ยวป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเลนบางกะไชย 18 ไร่ ของทช.โดยมีบริษัท stcc development จำกัด ถือครอง มีนายมนัสชัย พิมพาแทน อ้างว่าเป็นกรรมการผู้จัดการ มาแสดงตัวนำและนส.3 มาแสดง แต่พบว่ามีจำนวนพื้นที่ ที่รุกล้ำกว่า นส.3 เจ้าหน้าที่จึงแจ้งความดำเนินคดี

ทั้งนี้ นายรัชชัย กล่าวว่า ทั้ง 3 รีสอร์ตถือเป็นรีสอร์ตดังของ จ.จันทบุรี มีกลุ่มนายทุนมาบุกรุกพื้นที่ป่าไม้ มีพื้นที่บุกรุกรวมทั้งหมดกว่า 31 ไร่ หลังจากนี้จะนำพื้นที่ทั้งหมดไปตรวจสอบ ส่งสำนวนบันทึกการจับกุม ให้กับเจ้าพนักงาน  หากพื้นที่ดังกล่าวมีสภาพเป็นป่า ตามความในพ.ร.บ.ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 คือ ห้ามออกเอกสารสิทธิ ในที่เขาหรือภูเขา และในเขตที่สงวนหวงห้ามของรัฐ  ผู้ที่ครอบครองจึงอยู่ในฐานะของผู้ที่บุกรุกที่ดินของรัฐ ซึ่งจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

Advertisement

วันเดียวกันนายฐิติ โสมภีร์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ จ.กาญจนบุรี ลงพื้นที่ตรวจสอบ สำนักสงฆ์พุทธสถานบุญญพลัง ตั้งอยู่ท้องที่บ้านท่าสนุ่น ม.4 ต.ด่านแม่แฉลบ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ในเขตพื้นที่อุทยานฯเขื่อนศรีนครินทร์พบไม้กระยาเลยแปรรูปลักษณะเป็นไม้แผ่นขนาดใหญ่จำนวนมาก และซากสัตว์ป่าได้แก่ กวาง นกยูง นก เต่า จำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งให้นำเอกสารการครอบครองมาแสดงแต่ปรากฎว่าไม่มีเอกสารยืนยันการครอบครองดังกล่าว

นายฐิติ กล่าวว่า ได้รวบรวมหลักฐานเพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าอาวาสสำนักสงฆ์ดังกล่าวแล้ว ในข้อหามีไม้หวงห้ามใว้ในครอบครองตามพ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 และข้อหามีซากสัตว์ป่าไว้ในครอบครอง ตามพ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 โดยเข้าแจ้งความต่อสภ.ด่านแม่แฉลบ ซึ่งหลักจากนี้ 1 เดือน จะยื่นเอกสารต่อกรมอุทยานฯ ให้พิจารณาเพิกถอนสำนักสงฆ์ดังกล่าว เนื่องจากทำผิดเงื่อนไขพุทธอุทยาน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักสงฆ์ดังกล่าวกำลังจะมีการก่อสร้างพระพุทธรูปขนาดใหญ่ โดยมีการเรี่ยไร เงินจากชาวบ้านเพื่อก่อสร้างพระพุทธรูปดังกล่าวด้วย รวมทั้งมีการวางแผนจะขยายถนนจากดินลูกรังเป็นลาดยางมะตอยรวมระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร ซึ่งเบื้องต้นอุทยานฯ ได้สั่งระงับการก่อสร้างทั้งหมดแล้ว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image