โซเชียลแห่ชื่นชม ตร.มหาสารคาม ใช้ ‘ยุทธวิธีไม้ง่าม’ สยบหนุ่มคลั่ง

เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม โลกโซเชียลแห่ชื่นชมตำรวจ สภ.เมืองมหาสารคาม ที่บุกชาร์จจับตัวชายมีลักษณะอาการคลุ้มคลั่ง ที่สถานีขนส่งมหาสารคาม โดยใช้วิธีนำไม้ง่ามเข้าล็อคตัว ก่อนนำตัวไปสงบสติอารมณ์ พร้อมชื่นชมตำรวจปฏิบัติงานรวดเร็ว และเป็นภาพลักษณ์ที่ดีให้กับวงการตำรวจ

โดยเพจของ สภ.เมืองมหาสารคาม ได้โพสต์คลิปและภาพนิ่ง ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองมหาสารคาม กำลังปฏิบัติหน้าที่หลังได้รับแจ้งเหตุจากพลเมืองดีว่า มีชายคลุ้มคลั่ง ส่งเสียงเอะอะโวยวาย และมีอาวุธ อยู่ภายในสถานีขนส่งมหาสารคาม หรือ บขส. เกรงว่าจะเป็นอันตราย ให้รีบมาตรวจสอบโดยด่วน เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุพบชายอายุประมาณ 40 ปี นั่งอยู่บนรถจักรยานยนต์ที่จอดไว้ ภายในสถานีขนส่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำเหล็กที่ดัดแปลงลักษณะเหมือนไม้ง่ามและตะขอเกี่ยว มาใช้ในการเข้าชาร์จตัวชายคนดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่ตะโกนให้วางอาวุธ แต่การเจรจาไม่เป็นผล เมื่อสบโอกาสเจ้าหน้าที่จึงใช้ไม้ง่ามเข้าชาร์จล็อคตัวผู้ก่อเหตุ ซึ่งใช้เวลาไม่ถึง 2 นาที ก็สามารถควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไว้ได้ สร้างความโล่งใจให้กับประชาชนที่อยู่บริเวณดังกล่าว ต่างชื่นชมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สามารถควบคุมตัวผู้ก่อเหตุได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังแปลกใจกับอุปกรณ์ที่นำมาเป็นตัวช่วย ถึงกับมีการโพสต์กันว่าเป็น “เดชไม้ง่าม” ที่สามารถช่วยจับชายคลุ้มคลั่งได้อย่างรวดเร็ว

พ.ต.อ.ชัยโรจน์ นาคราช ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองมหาสารคาม เปิดเผยว่า ตำรวจได้ใช้ยุทธวิธีไม้ง่าม ซึ่งได้รับการฝึกมาจากตำรวจภูธรภาค 4 ซึ่งเป็นยุทธวิธีในการควบคุมผู้ก่อเหตุที่มีลักษณะอาการเมายา คลุ้มคลั่งมาใช้ ซึ่งต้องใช้เจ้าหน้าที่อย่างน้อย 4 คน คนหนึ่งจะใช้ไม้ง่ามดันตัวผู้ก่อเหตุ ก่อนที่อีกคนจะใช้ไม้ที่มีลักษณะเหมือนตะขอเกี่ยวขาให้ล้มลง ที่เหลือเข้าชาร์จ เอาไม้ง่ามดันเข้าที่ตัวผู้ก่อเหตุเพื่อไม่ให้ขยับตัวได้ ก่อนที่จะมีเจ้าหน้าที่อีกชุดเข้าไปควบคุมตัว ซึ่งยุทธวิธีดังกล่าวได้รับการฝึกมาตั้งแต่ปี 2559 ส่วนหนึ่งเป็นการป้องกันเจ้าหน้าที่ ในเรื่องของความปลอดภัย เพราะหากไม่มีไม้ง่าม การเข้าชาร์จแบบถึงตัวก็อาจทำให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บได้ หากผู้ก่อเหตุมีอาวุธ วิธีนี้จึงเป็นวิธีที่ปลอดภัย

สำหรับชายคนดังกล่าว ทราบชื่อภายหลังคือ นายไพฑูรย์ สายแว จากการสอบสวนสาเหตุที่มีอาการคลุ้มคลั่งทราบว่าเกิดจากความเครียด เพราะไม่มีเงินค่ารถกลับบ้านที่ จ.เลย จึงก่อเหตุขึ้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตรวจหาสารเสพติดในร่างกายก็ไม่พบ ภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้นำตัวมาสงบสติอารมณ์แล้วจึงส่งกลับภูมิลำเนา ส่วนนายตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่เข้าระงับเหตุ จะทำหนังสือถึงผู้บังคับบัญชา เพื่อมอบเกียรติบัตรเชิดชูเกียรติในการปฏิบัติหน้าที่ ในห้วงของการประชุมประจำเดือนของตำรวจต่อไป

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image