“วิญญัติ ชาติมนตรี” จี้ “ดีเอสไอ” ส่งความเห็นคดีร่วมกันเป็นกบฏของ”กปปส.”

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 19 กรกฎาคม ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความด้านสิทธิมนุษยชนและเลขาธิการสมาพันธ์นักกฎหมายเพื่อสิทธิและเสรีภาพ (สกสส.) เข้ายื่นหนังสือถึงพ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ เพื่อติดตามและเร่งรัดให้การสอบสวนคดีอาญา ซึ่งเป็นคดีพิเศษที่ 261/2556 ที่มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) กับพวก รวม 58 คน เป็นผู้ต้องหาฐานความผิด ร่วมกันเป็นกบฏฯ และข้อหาอื่นรวม 9 ข้อหา กรณีที่มีการชุมนุมทางการเมืองปิดสถานที่ราชการ ในช่วงปี 2556 ถึงปี 2557 โดยมีนายทัชชกร อรรณพเพ็ชร พนักงานสอบสวนคดีพิเศษชำนาญการพิเศษ ดีเอสไอ เป็นผู้รับเรื่อง

นายวิญญัติกล่าวว่า สืบเนื่องจากตนในฐานะที่เป็นผู้กล่าวหาในคดีพิเศษที่ 261/2556 ซึ่งเป็นการชุมนุมของกลุ่ม กปปส. เมื่อปี 2556-2557 ได้ยื่นหนังสือทวงถามการสั่งคดีนี้กับอัยการสูงสุด (อสส.) 2 ครั้ง โดยครั้งล่าสุดคือเมื่อวันที่ 28 มิถุนายนที่ผ่านมา ต่อมาเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคมที่ผ่านมา สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 4 ได้มีหนังสือแจ้งเตือนถึงอธิบดีดีเอสไอในฐานะผู้บังคับบัญชาให้เร่งส่งผลการสอบสวนเพิ่มเติม โดยมีใจความสำคัญว่า คดีนี้มีข้อเท็จจริงปรากฎว่าผู้ต้องหาทั้ง 30 คน มีพฤติการณ์ประวิงคดีโดยกรขอเลื่อนการส่งผลการสอบสวนเพิ่มเติม ตั้งแต่วันที่ 2 พฤศจิกายน 2558 ถึงวันที่ 16 พฤษภาคม 2560 แต่ยังไม่มีความคืบหน้าในการรวบรวมความเห็นของพยานดังที่ทนายผู้ต้องหาทั้ง 30 คนกล่าวอ้าง

นายวิญญัติ กล่าวต่อว่า ดังนั้น จึงขอให้ดีเอสไอแจ้งผู้ต้องหาจำนวนดังกล่าว และกำชับพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบคดีนี้ว่าหากผู้ต้องหาทั้ง 30 คน ประสงค์จะส่งความเห็นของพยานเพื่อให้พนักงานอัยการพิจารณา ก็ขอให้ส่งความเห็นไปยังพนักงานสอบสวนภายใน 30 วัน ไม่เช่นนั้น จะถือว่าผู้ต้องหาจำนวนดังกล่าว ไม่ประสงค์จะส่งความเห็น หากมีอะไรขัดข้องก็ขอให้แจ้งให้ทราบด้วย ซึ่งพนักงานอัยการได้กำชับพนักงานสอวบสวนคดีพิเศษให้สอบสวนเพิ่มเติมให้แล้วเสร็จอย่างเร่งด่วน ทั้งนี้ คดีนี้ดีเอสไอได้รับตัวผู้ต้องหาซึ่งมีนายสุเทพ กับพวก รวม 58 คน ไว้เป็นผู้ต้องหา และมีการสั่งฟ้องคดีไปที่อัยการแล้ว กระทั่งพนักงานอัยการได้มีการฟ้องคดี 4 ผู้ต้องหาต่อศาล

“อย่างไรก็ตาม เกิดข้อเท็จจริงว่ามีผู้ต้องหาบางรายที่ยังไม่ถูกฟ้องไปนั่งฟังการพิจารณาและอาจจะเข้าไปยุ่งเหยิงต่อพยานหลักฐานได้ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและกระบวนการพิจารณาที่ถูกต้องตามระเบียบกฎหมาย ที่สำคัญสิ่งที่เกิดขึ้นมีความล่าช้าเป็นเวลากว่า 3 ปี การขอความเป็นธรรมเป็นเวลาที่ยืดยาว ไม่ได้มีการเร่งรัดอย่างคดีอื่นๆที่ดีเอสไอได้ทำ พนักงานอัยการจึงมีหนังสือตอบกลับมาทางผมว่าให้เตือนอธิบดีดีเอสไอดังกล่าว” นายวิญญัต กล่าว

Advertisement

เลขาธิการ สกสส. กล่าวด้วยว่าขอตั้งข้อสังเกตว่าในเวลา 1 ปีกว่า ๆ ที่อัยการยังสอบเพิ่มเติม ซึ่งการสั่งสอบเพิ่มเติมนั้น ซึ่งเป็นการสอบเพิ่มเติมหลังจากที่ได้รับการขอความเป็นธรรมจากผู้ต้องหา ซึ่งที่จริงแล้วอัยการได้มีการสั่งฟ้องไปหมดแล้ว เพียงแต่ยังไม่กระบวนการนำตัวผู้ต้องหาไปฟ้อง ตนจึงไม่ทราบว่าติดขัดเรื่องอะไร ซึ่งเรื่องนี้อาจทำให้เกิดข้อวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการเลือกปฏิบัติหรือไม่ ตนจึงขอให้ดีเอสไอเร่งส่งความเห็นในเวลาดังกล่าว ทั้งนี้ ตนจะติดตามต่อเนื่องซึ่ง 30 วันที่ว่าก็คงไม่เกินกลางเดือน ส.ค.นี้ หากพนักงานสอบสวนดีเอสไอปล่อยปละละเลยหรือนิ่งเฉยก็อาจจะต้องมีการดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ด้าน นายทัชชกร กล่าวว่า หลังจากรับเรื่องแล้ว ก็จะประมวลข้อเท็จจริง ก่อนเสนอให้อธิบดีดีเอสไอได้สั่งการต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image