วันที่ 20 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความคืบหน้ากรณี “บุญรอด” ควายเพศเมียซึ่งมีผู้ใจบุญช่วยรวบรวมเงินช่วยไถ่ชีวิตไว้ ขณะกำลังถูกพ่อค้าโคกระบือส่งเข้าโรงฆ่าสัตว์ ภายหลังบุญรอดได้ถูกนำไปฝากเลี้ยงกับปศุสัตว์อำเภอเขาค้อ และถูกนำเข้าโครงการธนาคารโคกระบือเพื่อเกษตรกรฯ กับพบว่าควายเพศเมียตัวนี้ได้ถูกส่งมอบให้เกษตรกรในโครงการนำไปเลี้ยง และเมื่อคนไถ่ชีวิตติดตามไปเยี่ยมบุญรอดกลับไม่พบ และเมื่อสอบถามกับได้รับคำชี้แจงแบบรับไม่ได้ว่า บุญรอดตกลูกให้ไม่ได้จึงต้องถูกขายให้โรงฆ่าสัตว์ หากอยากได้คืนต้องนำเงินไปไถ่ชีวิตคืนอีกครั้ง จนกลายเป็นประเด็นสะเทือนใจจนชาวโซเชียลมีเดียรวมทั้งผู้คนที่ได้ยินเรื่องราวชะตากรรมบุญรอดจะรอดชีวิตเป็นครั้งที่ 2 หรือถึงกับไม่รับไม่ได้
ล่าสุดนายไกรสร กองฉลาด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวชี้แจงว่า ทางจังหวัดไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดได้สั่งให้ทางอำเภอไปดำเนินการตรวจสอบ กระทั่งเบื้องต้นทราบว่านายวรพล แก้วแดง เกษตรกรในโครงการธนาคารโคกระบือเป็นผู้ที่รับบุญรอดไปเลี้ยง พร้อมยังรับสารภาพด้วยว่าได้ขายกระบือตัวนี้ไปแล้ว โดยอ้างว่าหลังพบบุญรอดกระบือเพศเมียตัวนี้ไม่สามารถขยายพันธุ์ได้ แม้จะพยายามผสมเทียมแล้วก็ตาม จึงขายให้พ่อค้าจรไปในราคา 35,000 บาท ตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมาแล้ว จากนั้นนำเงินไปซื้อกระบือแม่ลูกใหม่มาเลี้ยงทดแทน
นายไกรสร กล่าวอีกว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดยังสั่งการให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยมอบหมายให้นายสนั่น พงษ์อักษร ปลัดจังหวัดเป็นประธาน โดยกำหนดให้ผลการสอบสวนปรากฏภายใน 7 วัน นอกจากนี้ เมื่อเวลา 20.00 น.ของคืนวันที่ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมา ยังสั่งการให้นายสมภาร จิตนันท์ ปศุสัตว์อำเภอเขาค้อ เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เขาค้อ เพื่อกล่าวโทษกับนายวรพล แก้วแดง เกษตรกรรายนี้ในข้อหายักยอกทรัพย์ (กระบือ) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
รายงานข่าวแจ้งว่า บนเฟซบุ๊กส่วนตัวที่ชื่อ “ไกรสร กองฉลาด” มีการเผยแพร่คำชี้แจงของทางจังหวัดเพชรบูรณ์ ถึงการตรวจสอบเบื้องต้นกรณีกระบือเพศเมียบุญรอดที่มีผู้ไถ่ชีวิตไว้ ภายหลังนำไปฝากเลี้ยงกับปศุสัตว์ ไปเยี่ยมกลับบ่ายเบี่ยง พอขอคืนบอกต้องประมูลกับโรงฆ่าสัตว์ พบว่าเกษตรกรคือนายวรพล แก้วแดง อยู่บ้านเลขที่ 94 หมู่ที่ 9 ต.หนองแม่นา อ.เขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้กระทำความผิดจริง โดยได้นำกระบือตัวดังกล่าวไปจำหน่ายให้กับพ่อค้าจรโดยมิได้แจ้งให้กับสำนักงานปศุสัตว์อำเภอ ซึ่งเป็นหน่วยที่ดูแลโครงการดังกล่าวรับทราบ ซึ่งการกระทำดังกล่าวนอกจากจะเป็นการกระทำที่ผิดระเบียบแล้วยังเข้าข่ายความผิดฐานยักยอกทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญาด้วย รายละเอียดตามเอกสารคำให้การรับสารภาพของนายวรพล แก้วแดง ที่แนบมาพร้อมนี้ นายพิบูลย์ หัตถกิจโกศล ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการดังนี้
1.ให้อำเภอเขาค้อ สั่งการให้สำนักงานปศุสัตว์อำเภอในฐานะผู้เสียหายไปแจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลดังกล่าวแล้ว เมื่อ เวลา 20.30 น. ของวันที่ 19 ก.ค. 2560 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อบุคคลดังกล่าวต่อไป 2.เนื่องจากกรณีดังกล่าว เป็นเรื่องที่กระทบต่อความรู้สึกของคนไทยโดยส่วนร่วม โดยเฉพาะพุทธศาสนิกชน จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง โดยมีปลัดจังหวัดเพชรบูรณ์เป็นประธาน ดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงให้ปรากฏภายใน 7 วันนับแต่วันที่ 19 กรกฎาคม 2560 ผลการสอบสวนเป็นประการใดจักได้รายงานมาเพื่อโปรดทราบอีกครั้งหนึ่ง
ด้านนายรพีภัค ธราธรพิทักษ์ ผู้ไถ่ชีวิตบุญรอดและเจ้าของเฟสบุ๊ค Rapeepak Taratorpitak แจ้งว่า เวลา 11.00 น.วันที่ 20 ก.ค.นี้จะเดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.เขาค้อเช่นกัน และวันเสาร์ที่ 22 ก.ค.จะถึงนี้จะเดินทางไปที่ทำการปศุสัตว์อำเภอเขาค้อ เพื่อไปให้ชี้แจงกับสังคมถึงเหตุการณ์ที่เกิดกับบุญรอด เชื่อว่าเรื่องนี้มีตื้นลึกหนาบางมากกว่านี้ เพราะข้อมูลที่ตนมีไม่ตรงตามที่เขาออกมาพูดหรือชี้แจง และขอบคุณทุกท่านที่พยายามจะช่วยชีวิตบุญรอด แม้จะเหลือความหวังเพียงลิบลี่ แต่ตนก็จะพยายามต่อไป ส่วนใครที่กระทำกับบุญรอดไว้อย่างไรก็สมควรรับกรรมเช่นกัน
ทั้งนี้ ยังมีรายงานด้วยว่า นายรพรีภัคยังโพสต์บนเฟซบุ๊กส่วนตัวที่ใช้ชื่อ Rapeepak Taratorpitak โดยระบุว่า ล่าสุดฟังแล้วใจหายบุญรอดจะมีชีวิตอยู่หรือไม่ หลังข่าวบุญรอดถูกเผยแพร่ออกสื่อต่างๆ ไป เพื่อเรียกร้องให้ช่วยชีวิต มีหน่วยงานของรัฐเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงหลายฝ่ายและพบพิรุธหลายอย่าง ล่าสุดได้รับคำชี้แจงและคำขอโทษจากทางปศุสัตว์เขาค้อว่าได้ขายบุญรอดไปแล้ว บุญรอดจะรอดหรือไม่ช่วยกันติดตาม ถูกขายไปกับพ่อค้าโคกระบือเข้าโรงฆ่าสัตว์ โครงการหลวงหน่วยงานหลวงที่เราไว้ใจ ฝากชีวิตบุญรอดไว้ทำไมถึงทำแบบนี้ ขอให้ผู้รับผิดชอบออกมาชี้แจงให้สังคมหายสงสัยด้วย และอยากทราบว่าเจ้าหน้าที่สามารถดำเนินการแบบนี้ได้ด้วยหรอ ฝากถามท่านผู้มีความรู้ในด้านนี้ช่วยตอบด้วยครับ
ทั้งนี้ นายรพีภัคยังโพสต์ทิ้งท้ายด้วยว่า “เขาไม่ได้เกิดมาเพื่อถูกฆ่าหรือให้คุณทำกับชีวิตเขาแบบนี้ เพียงให้เหตุผลเพราะคุณบอกว่าเขาเลี้ยงแล้วไม่เชื่องเลี้ยงแล้วไม่ออกลูกให้นะครับ ตอบสังคมด้วยครับ” อย่างไรก็ตามปรากฏว่าได้มีเพื่อนสมาชิกได้เข้ามาโพสต์แสดงความคิดเห็น โดยส่วนใหญ่ต่างพากันรู้สึกสะเทือนใจและรับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้นกับบุญรอดควายเพศเมียตัวนี้ กระทั่งพากันเรียกรัองมีผู้ออกมารับผิดชอบกับชีวิตบุญรอด รวมทั้งให้เอาผิดทั้งปศุสัตว์อำเภอและเกษตรกรรายนี้กันเป็นจำนวนมาก
