สินค้าบริโภคยื่นขอปรับราคาแล้ว!! คน.ปล่อยปลากระป๋อง’อะยัม’ขึ้น3บาท

นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมการค้าภายใน(คน.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคส่วนใหญ่ ยังไม่มีการยื่นขอปรับราคาจำหน่ายเข้ามาให้กรมฯได้พิจารณา ยกเว้น บริษัทนำเข้าปลากระป๋องตราอะยัม จากประเทศมาเลเซีย ได้ทำหนังสือขออนุญาตปรับขึ้นราคาจำหน่ายจากกระป๋อง(ขนาด 155 กรัม)ละ 33 บาท เป็น 38 บาท อ้างต้นทุนนำเข้าสูงขึ้น แต่กรมฯได้วิเคราะห์ต้นทุนแล้วเห็นว่าราคาที่เหมาะสมในการปรับขึ้นอยู่ที่ 36 บาท และราคามีผลตั้งแต่สัปดาห์หน้า ส่วนปลากระป๋องภายในประเทศยังไม่มีการยื่นขอปรับราคา เช่น ตราโรซ่า ไฮคิว สามแม่ครัว ปุ้มปุ้ย คงจำหน่ายราคา 17.50-18.50 บาท ถือเป็นทางเลือกให้ผู้บริโภค

นางนันทวัลย์ กล่าวต่อว่า จากการวิเคราะห์โครงสร้างต้นทุนสินค้า หลังมติการปรับขึ้นอัตราค่าไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ(ค่าเอฟที) งวดกันยายน-ธันวาคม 2560 ที่ 8.87 สตางค์ต่อหน่วย และทำให้ค่าไฟอยู่ที่ 3.5966 บาทต่อหน่วย รวมถึงกรณีลอยตัวราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (แอลพีจี) เริ่ม 1 สิงหาคม 2560 นั้น ในส่วนค่าไฟที่จะปรับขึ้นเทียบต้นทุนผลิตสินค้า พบว่า กระทบน้อยมาก เพียง 0.0001-0.1886% เช่น อาหารปรุงสำเร็จ จานละ 35 บาท ได้รับผลกระทบ 0.02 บาท/จาน ปลากระป๋อง กระทบ 0.0033 บาท แชมพูสระผม กระทบ 0.0014 บาท กระดาษชำระ กระทบ 0.0091 บาท แบตเตอรี่รถยนต์ กระทบ 1.3587 บาท/ลูก สังกะสี 0.0019 บาท น้ำมันหล่อลื่น 0.0029 บาท เครื่องแบบนักเรียน 0.0222 บาท ดังนั้น สินค้าจำเป็นต่อชีวิตประจำวันจะอ้างเป็นต้นเหตุปรับราคาสินค้าไม่ได้

ส่วนก๊าซแอลพีจี ซึ่งกรมฯได้ออกประกาศราคาขายปลีกก๊าซหุงต้ม ราคา 343 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม โดยเป็นราคาที่รวมค่าขนส่งแล้ว ส่วนแนวโน้มในเดือนสิงหาคม เชื่อว่าราคาก๊าซแอลพีจีในตลาดโลก ทรงตัวระดับต่ำ และคาดว่าราคาในประเทศยังทรงตัว หรือปรับขึ้นเพียงถังละ 1.80 บาท จึงไม่มีผลต่อราคาอาหารปรุงสำเร็จสูงขึ้น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image