สุดเวทนา 2 ยาย-หลานยากจน อยู่อย่างอดมื้อกินมื้อ รอดด้วยเบี้ยยังชีพคนชรา เดือนละ800

สุดเวทนา 2 ยาย-หลาน มีฐานะยากจนต้องอยู่อย่างอดมื้อกินมื้อ รอดด้วยเบี้ยยังชีพคนชราเพียงเดือนละ 800 บาท

วันนี้(21 ก.ค.60)ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ ได้รับแจ้งจาก ชาวบ้านกาลัน ม.15 ต.ปรือ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ว่าพบ 2 ยายหลาน ชีวิตสุดเวทนา พิการเดินไม่ได้และมีโรครุมเร้า โดยอาศัยอยู่กับหลานสาววัย 17 ปี เพียง 2 คน มีชีวิตอยู่ด้วยความยากลำบาก อดมื้อ กินมื้อ มีเพียง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง เป็นอาหารประทั้งชีวิต อยู่รอดเพราะเบี้ยยังชีพคนชราเพียงเดือนละ 800 บาทเท่านั้น ทั้งที่มีลูก 8 คน ก็เหมือนไม่มี เพราะแต่ละคนล้วนฐานะยากจน ปากกัด ตีนถีบ แม้จะเลี้ยง ตัวเองยังจะไม่รอด วอนสื่อลงพื้นที่ นำเสนอข่าวช่วยเหลือ
ผู้สื่อข่าวรุดลงพื้นที่ ตรวจสอบที่ บ้านเลขที่ 88 บ้านกาลัน ม.15 ต.ปรือ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ พบเป็นบ้านไม้สองชั้นใต้ถุนสูง สภาพเก่ามากและใกล้ผุพัง โดยเฉพาะชั้นบน ปลวกกิน หลังคาสังกะสีผุพัง กันแดนแต่ไม่กันฝน ห้องน้ำสภาพเก่า ไม่มีไฟฟ้าส่องสว่าง พบ น้องหนิง หรือ น.ส.สุทธิดา นาคเขียว อายุ 17 ปี คอยดูแล นางล้อม นาคเขียน อายุ 85 ปี ผู้เป็นยาย อย่างใกล้ชิด ทั้งการหุงหาอาหาร และทำงานบ้านทุกอย่าง อาศัยอยู่ชั้นล่างของตัวบ้าน เป็นห้องเล็กๆ ก่อด้วยอิฐบล็อก ทั้งบ้านมีเครื่องใช้ไฟฟ้า แค่พัดลม 1 ตัว กระติกน้ำร้อน ที่ใช้สำหรับต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และโทรทัศน์ ขาว ดำ ขนาด 14 นิ้ว สภาพเก่า เปิดติดบ้างไม่ติดบ้าง

จากการสอบถามเพื่อนบ้าน ทราบว่า ครอบครัวนี้ มีลูก 8 คน ส่วนใหญ่มีฐานะยากจน มีอาชีพรับจ้าง หากินไปวันๆ ส่วนผู้เป็นแม่ของน้องหนิง ไปแต่งงานกับสามีใหม่ และทำงานเป็นนักการภารโรง ที่โรงเรียนบ้านดอนจันทร์ จ.สมุทรสาคร ส่งเงินมาให้ใช้บ้าง นานๆครั้งๆ ละ 500 บาท ต่อมาผู้สื่อข่าวจึงได้ประสานงานกับ นายวีรชัย พูนล้น นายก อบต.ปรือ ให้เดินทางมา ที่บ้านหลังดังกล่าว เพื่อปรึกษาหารือ แนวทางในการช่วยเหลือในเบื้องต้น

โดย น.ส.สุทธิดา นาคเขียว อายุ 17 ปี อยู่บ้านเลขที่ 88 บ้านกาลัน ม.15 ต.ปรือ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ กล่าวว่า ตนไม่ได้เรียนหนังสือต่อ หลังจบแค่ ชั้น ป.6 จากโรงเรียนบ้านบักดอก เพราะครอบครัวมีฐานะยากจน และไม่มีใครคอยดูแลยาย ที่อายุมากแล้ว เดินไม่ได้และไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ต้องคอยดูแลตลอดเวลา ตนอยากเรียนหนังสือ แต่ก็ไม่มีใครอยู่ดูแลยาย อนาคตอยู่ไปวันๆ ไม่กล้าที่จะฝันอะไร อาหารการกินมีแค่ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง ที่ไปซื้อด้วยเงินสดบ้าง และเครดิตบ้าง มาจากร้านค้าภายในหมู่บ้าน บางทีป้าก็เอามาให้บ้าง ทุกวันนี้ ตนและยาย มีชีวิตอยู่รอดได้เพราะ เงินเดือนผู้สูงอายุ เพียงเดือนละ 800 บาท

Advertisement

นางล้อม นาคเขียน อายุ 85 ปี อยู่บ้านเลขที่ 88 บ้านกาลัน ม.15 ต.ปรือ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ กล่าวว่า อาหารหลักที่รับประทานทุกวัน คือ ไข่ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และปลากระป๋อง มีสภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ยากลำบาก ประทั้งชีวิต 2 ยายหลาน จากเงินเดือนเบี้ยผู้สูงอายุ เดือนละ 800 บาท จาก อบต.ปรือ ตนมีลูก 8 คน ส่วนใหญ่ก็ล้วนแล้วแต่ฐานะยากจน แม้จะเลี้ยงตัวเองก็ยังไม่รอด ส่วนหลานไม่ได้เรียนต่อ เพราะต้องอยู่ดูแลตนเอง

ด้าน นายวีรชัย พูนล้น นายก อบต.ปรือ กล่าวว่า การช่วยเหลือผู้สูงอายุ ก็มีการช่วยเหลือเป็นเงินเดือน ตามขั้นบันได อายุ 60 ปี ก็ 600 บาท 70 ปี ก็ 700 บาท 80 ปี ก็ 800 บาท เป็นต้น ส่วนกรณีคุณยาย มีความพิการเดินไม่ได้ ก็ต้องไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาล เพื่อขอหนังสือรับรองความพิการ และนำเอกสารหลักฐานต่างๆมายื่นที่ อบต.ปรือ เพื่อขอรับเบี้ยยังชีพคนพิการ ซึ่งหากมีการยื่นภายในเดือนนี้ มีระเบียบใหม่ ก็จะได้เงินเดือนถัดไป ซึ่งทาง อบต.ปรือ จะนำรถของทางราชการ มา รับ-ส่ง และพาดำเนินการช่วยเหลือต่อไป

Advertisement

ทั้งนี้ เพื่อให้การช่วยเหลือและสงเคราะห์คนยากจนหรือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน หากใครต้องการช่วยเหลือนางล้อม และหลาน สามารถบริจาคได้ที่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขา ปราสาทเมืองใหม่ ชื่อบัญชี นางล้อม นาคเขียว โดยนางกาญณ์ นาคเขียว บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ (โครงการ) เลขที่บัญชี 020121426147 รหัสโครงการ 010-เงินฝากออม หรือจะสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นายวีรชัย พูนล้น นายก อบต.ปรือ หมายเลขโทรศัพท์ 081-7588229

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image