‘บิ๊กตู่’ร่ายกลอน’หลักคิดประชารัฐ’ หวังเกษตรกรปรับใช้ แนะคนรุ่นใหม่แชร์ต่อ เพื่อเข้าใจลุงตู่

แฟ้มภาพ

เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เปิดเผยว่า ได้แต่งกลอนใหม่ ชื่อ “หลักคิดประชารัฐ” เพื่อชวนคนไทยคิดและทำในสิ่งที่ถูกต้อง โดยนำศาสตร์พระราชามาปรับใช้ในการทำการเกษตร ดูความต้องการของตลาดเป็นหลัก ซึ่งคสช.พร้อมจะช่วยเหลือประชาชนในการเปลี่ยนแปลง โดยมีเนื้อหาของกลอนดังนี้
“ชวนคนไทย สร้างหลักคิด ที่ถูกต้อง
มากกว่ามอง ส่วนตนให้ มหาศาล
ประเทศไทย ประชาชน จนยากนาน
การเปลี่ยนถ่าน ปฎิรูป ไม่รื่นรมย์
หากคิดคำ หรือคิดปลูก มองตลาด
จะไม่พลาด ได้ราคา ที่เหมาะสม
ไม่ปลูกตาม ปลูกมาก จากนิยม
ทางสุดจม ราคาตก ให้ทุกข์ใจ
มองตลาด มองต้นทุน มองวิธี
สู่วิถี ศาสตร์พระราชา เป็นเงื่อนไข
ความลำบาก ความยากจน หมดสิ้นไป
ไทยเป็นไท สู่ยั่งยืน ด้วยตนเอง
ต้องรวมตัว ประชารัฐ ให้แข็งขัน
เพื่อแบ่งปัน การตลาด ให้เหมาะสม
ได้ส่วนแบ่ง จากรายใหญ่ มาชื่นชม
ประชาคม ประชารัฐ ช่วยกระจาย
อย่าทำกิน โดยปลูกพืช บุกรุกป่า
วันข้างหน้า ป่าไม่เหลือ จะเสียหาย
จะขาดผล ทนทุกข์ยาก ลำบากกาย
จนวันตาย ไม่คุ้มค่า อีกต่อไป
ทำอย่างไร ปลูกผลิต ไม่หลงเหลือ
รัฐจุนเจือ ค่าใช้จ่าย อสงไขย
ต้องลดทุน เหลือส่วนต่าง อย่างกำไร
ใช้กลไก ประชารัฐ เข้าดูแล
รัฐบาลคสช. นั้นมุ่งหวัง อย่างเต็มที่
แม้วันนี้ มีปัญหา หลายกระแส
จะเร่งทำ เร่งแก้ไข ไม่เชือนแช
เป็นเพื่อนแท้ ประชาชน ใช้หลอกหลวง”

ด้านพล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกฯได้แต่งกลอน เรื่อง “หลักคิดประชารัฐ” เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมา ด้วยความมุ่งหวังที่อยากจะเห็นคนไทยมีหลักคิดที่ถูกต้องในการดำเนินชีวิต โดยการน้อมนำศาสตร์พระราชาไปประยุกต์ใช้ โดยเฉพาะในภาคการเกษตร และสอดคล้องกับแนวทางประชารัฐที่ทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชนร่วมกันพัฒนา ตั้งแต่การศึกษาตลาด ปลูกพืชที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่และความต้องการของตลาด ไม่เพาะปลูกตามกระแส เพื่อเป้าหมายในการสร้างรายได้ ลดต้นทุน เพิ่มผลิตให้มากขึ้น ทั้งนี้ การทำการเกษตรจะต้องไม่บุกรุกทำลายป่า เพราะจะส่งผลเสียต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในระยะยาว โดยรัฐบาลและ คสช. มุ่งมั่นที่จะนำพาประเทศก้าวไปสู่สิ่งที่ดีขึ้น แม้จะมีปัญหาอุปสรรคมากมายสักเพียงใดก็ตาม

“อันที่จริงนายกฯ เคยพูดเรื่องราวเหล่านี้หลายครั้งหลายโอกาสแล้ว ใครที่รู้จักนำแนวทางนี้ไปใช้ก็จะพบว่าได้ประโยชน์ ส่วนใครที่ยังไม่หือไม่อือ ประโยชน์ก็คงไม่เกิดแน่ๆ การพูดของนายกฯ แบบร้อยแก้วหรือเล่าสู่กันฟังทั่วไป อาจจะยังไม่น่าสนใจในความรู้สึกของใครบางคน ท่านจึงคิดที่จะใช้บทกลอนช่วยถ่ายทอดเรื่องราวแบบใหม่ เผื่อว่าคนจะหันมาใส่ใจกันบ้าง แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่านักเลงกลอนทั้งหลายคงเข้าใจดีว่า การแต่งกลอนไม่ใช่ของง่าย เพราะนอกจากจะต้องมีสัมผัสนอกสัมผัสในแล้ว สิ่งที่ยากกว่าก็คือ การเรียบเรียงที่ได้เนื้อหาใจความแบบที่ต้องการจะสื่อ” พล.ท.สรรเสริญ กล่าวและว่า จึงอยากใช้โอกาสนี้ เชิญชวนประชาชน นักเรียนนักศึกษา คนรุ่นใหม่ หยิบบทกลอนของนายกฯ ไปอัดคลิปอ่านทำนองเสนาะ หรือขับเสภา แชร์กันในโลกโซเชียลน่าจะช่วยฟื้นฟูวัฒนธรรมไทย และช่วยสร้างความเข้าใจดีๆ จากบทกลอนของลุงตู่ได้เป็นแน่แท้

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image