ทิ้งทุ่นก่อนถูกเซตซีโร่ โดย สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

แปลกใจนิดๆ

ที่ นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ออกมาขานรับไทม์ไลน์ที่ “เจ้าหน้าที่” ทำเป็นตุ๊กตาเสนอคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่า การเลือกตั้งทั่วไปน่าจะเกิดขึ้นได้ในวันที่ 19 สิงหาคม 2561

โดยนายสุรชัยระบุว่า “หากพิจารณาเงื่อนเวลาต่างๆ คาดว่าระยะเวลาในการจัดการเลือกตั้งทั่วไปน่าจะใกล้เคียงกัน”

ที่ว่าแปลกใจ ก็เพราะตามความคาดหมายแล้ว เหล่าบรรดาแม่น้ำ 5 สาย ควรจะมีท่าที อย่างที่ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมายมี

Advertisement

นั่นคือ เมื่อเห็นวัน (ที่คาดว่าจะมี) เลือกตั้ง 19 สิงหาคม 2561

ควรจะมีท่าทีออกไปในทางมึนๆ งงๆ แบบ “ไม่ทราบ ไม่รู้ … กกต.กำหนดอย่างนั้นๆ อาศัยหลักใด” มากกว่า

หรือพูดให้ง่ายๆ ขึ้นมาอีกหน่อย

Advertisement

แม่น้ำ 5 สาย โดยเฉพาะสายหลักที่อยู่ทำเนียบนั้นไม่ยินดี

กับการฟันธงใดๆ ที่จะชี้ชัดลงไปว่า การเลือกตั้งควรจะมีขึ้นเมื่อใด

หากจะพูดถึงการเลือกตั้ง จะต้องบอกแบบกว้างๆ ว่า เป็นไปตามโรดแมป

ซึ่งนอกจากจะกว้างเป็นแม่น้ำแล้ว

เราก็ได้เห็นว่ามีการยืดหยุ่น หรือเลื่อนกันไปเรื่อยๆ ตาม “สถานการณ์กำหนด”

สอดคล้องกับสิ่งที่หลายคนคาดหมายไว้ นั่นคือ ผู้ที่กุมอำนาจยังไม่สุกงอมกับการเลือกตั้ง “เร็ว” เท่าใดนัก

เราจึงได้ยินคำพูดทำนอง ถ้าเลือกตั้งแล้วได้พวกเก่าๆ เดิมๆ กลับมาแล้วจะทำอย่างไร

อันสะท้อนชัดเจนว่า มีผู้ที่ไม่อยากให้เกิดการเลือกตั้งเร็ว เลื่อนได้ก็ควรเลื่อน

ส่วนถึงขนาดไม่อยากให้มีการเลือกตั้งเลยหรือไม่ นั้น ถ้าเลือกได้ ก็อาจมีคนเลือกนะ อย่าทำเป็นเล่นไป

ดังนั้น เมื่อมีตุ๊กตาการเลือกตั้งหลุดจาก กกต. ว่าควรมีการเลือกตั้งเมื่อใด ย่อมนำไปสู่การไม่ขานรับ เพราะการเลือกตั้งดูจะเร็วเกินไป

ฝ่ายที่มีอำนาจต้องการจะยื้อออกไปให้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้มากกว่า

ด้วยหวังว่าเวลาที่มีมากขึ้นจะสามารถทำอะไรได้หลายอย่าง

เช่น พยายามสร้างผลงานตามแนวทางปฏิรูปที่วางไว้ ฟื้นฟูเศรษฐกิจให้ดีขึ้น เป็นต้น

หากทำได้ คะแนนนิยมก็น่าเทมายังรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยิ่งขึ้น

ในอีกด้านก็ใช้เวลาที่มีอยู่เดินเกมทำลายคู่แข่งทางการเมือง ซึ่งก็มีหลากหลายวิธี ไม่ต้องยกตัวอย่างก็คงพอแลเห็นได้

ที่สำคัญ “เวลา” ที่มากขึ้นนี้ จะทำให้กลไกต่างๆ มีโอกาส

ขับเคลื่อนไปตาม “กฎ กติกา” ที่กำหนดไว้อย่างเต็มที่ และทำให้คดีความต่างๆ ที่ตกค้างอยู่ถูกชำระสะสาง

ซึ่งการชำระสะสางนั้น ทำให้เราได้เห็นแกนนำ โดยเฉพาะฝ่ายที่อยู่ตรงกันข้ามกับ “ผู้มีอำนาจ” เดินเข้าคุก ถูกตัดสิทธิทางการเมือง เป็นแถวๆ

แน่นอน ปรากฏการณ์เช่นนี้ ย่อมทำให้พรรคการเมืองอย่างพรรคเพื่อไทยง่อยเปลี้ยเสียขาลงอย่างมาก

จนแทบจะออกสนามเลือกตั้งในฐานะคนป่วย

ซึ่งนี่ก็คือเป้าหมาย ที่ฝ่ายกุมอำนาจต้องการเห็น และแน่นอนย่อมสัมพันธ์กับวันเวลาเลือกตั้งที่ควร “ร่น” ออกไป

จึงมีผู้เคืองเป็นธรรมดากับการที่ กกต.มาขยันก่อนถูก“เซตซีโร่” ด้วยการเซตวันเลือกตั้งเป็นวันที่ 19 สิงหาคม 2561

อันอาจทำให้คนฉุกคิดว่า หากร่วมไม้ร่วมมือกันจริงๆ การเลือกตั้งสามารถมีขึ้นได้ในเวลาที่ไม่เนิ่นนานนัก

เป็นการทิ้งทุ่นขวางทางเอาไว้ ก่อนถูกเซตซีโร่หรือเปล่า!

…………..

สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image